วันที่ 14 ธันวาคม 2568 พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ลงนามในประกาศกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เรื่อง ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานภายในระหว่างระยะเวลาที่กำหนด มีข้อความดังนี้
ด้วยพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ กำหนดให้อำนาจฝ่ายทหารในเขตพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก เพื่อให้เกิดความมีเสถียรภาพ มีความมั่นคง มีความปลอดภัย เกิดความสงบสุขของประชาชนในพื้นที่ และรอดพ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักร เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดนตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อาศัยอำนาจตาม
มาตรา๑๑ (๖) แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ จึงกำหนดมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย ตังต่อไปนี้
1.ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานภายในระหว่างระยะเวลา 19.00 – 05.00 น. ในพื้นที่จังหวัดตราด เฉพาะอำเภอคลองใหญ่ อำเภอบ่อไร่ อำเภอแหลมงอบ อำเภอเขาสมิง และอำเภอเมืองตราดกรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่
2.ใช้มาตรการทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช ๒๕๕๗
อย่างเคร่งครัด อำนาจนี้ให้ครอบคลุมถึงการควบคุมพื้นที่ การควบคุมบุคคล การตรวจค้น ที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบ หรือกระทบต่อความมั่นคง ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่าว่า วันนี้ (14 ธันวาคม 2568) กองทัพเรือ โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) และหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ฉก.นย.ตราด) ได้เปิดปฏิบัติการร่วมทางทหารกับกองทัพอากาศเพื่อยึดคืนพื้นที่อธิปไตยของไทย บริเวณบ้าน 3 หลัง บ้านหนองรี ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายตรงข้ามรุกล้ำเข้ามาอยู่ในเขตดินแดนของประเทศไทย การปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้ามืด โดยมีการปะทะกันอย่างหนักในพื้นที่ ภายใต้หลักการใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล และการรักษาอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ
ณ เวลานี้ (07.20 นาฬิกา) กองทัพเรือสามารถควบคุมและยึดพื้นที่ดังกล่าวได้แล้ว และขับไล่กองกำลังฝ่ายตรงข้ามออกจากพื้นที่ได้ทั้งหมด พร้อมทั้งได้ดำเนินการปักธงชาติไทยในพื้นที่ เพื่อแสดงถึงการยืนยันอธิปไตยของประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่บ้านหนองรีโดยรอบยังคงมีการปะทะกันเป็นระยะ จากการพยายามตอบโต้ของฝ่ายตรงข้าม กำลังของหน่วยนาวิกโยธิน และหน่วยกำลังของกองทัพเรืออีกหลายหน่วยที่มาร่วมปฏิบัติหน้าที่ได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้หลักความจำเป็นและได้สัดส่วน เพื่อรักษาความมั่นคงของพื้นที่ และป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามกลับเข้ามารุกล้ำอธิปไตยของประเทศไทยอีก