ผู้ว่าแบงก์ชาติ ชี้ตั้งแต่ต้น ธ.ค. 68 เงินบาทแข็งค่าขึ้น 2.5% ห่วงบาทแข็งค่าแรงและเร็ว สั่งตรวจสอบธุรกรรมค้าทองคำเข้มงวด ยอมรับมีผลให้ค่าเงินผันผวน

ผู้ว่าแบงก์ชาติ ชี้ตั้งแต่ต้น ธ.ค. 68 เงินบาท แข็งค่าขึ้น 2.5% ห่วงบาทแข็งค่าแรงและเร็ว สั่งตรวจสอบธุรกรรมค้าทองคำเข้มงวด ยอมรับมีผลให้ค่าเงินผันผวน

นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.68 เงินบาทแข็งค่าขึ้น 2.5% โดยสาเหตุหลักมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ค่าเงินบาทยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากปัจจัยเฉพาะของไทยเอง เช่นปัจจัยฤดูกาลในช่วงท้ายปี ที่ทำให้มีเงินไหลเข้าสูงขึ้น ทั้งจากการท่องเที่ยว และการส่งออกรวมทั้งเงินทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนในหุ้น และพันธบัตรนอกจากนี้ ยังมีธุรกรรมจากกลุ่มผู้ค้าทองคำ ที่มีปริมาณธุรกรรมขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อเงินบาทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ธปท. จึงเข้าดูแลค่าเงินบาท และคุมเข้มธุรกรรมการขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อซื้อเงินบาทของธุรกิจทองคำ โดยได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ ตรวจสอบเอกสารในธุรกรรมการขายเงินตราต่างประเทศ เพื่อแลกซื้อเงินบาทของธุรกิจทองคำอย่างเข้มงวด และอยู่ระหว่างการขอให้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เพื่อให้อำนาจ ธปท. ในการเรียกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเงินตราต่างประเทศจากผู้ค้าทองคำรายใหญ่ รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับธุรกรรมการขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อเงินบาท เนื่องจากธุรกรรมซื้อขายเงินตราต่างประเทศ ของธุรกิจทองคำในบางช่วง มีสัดส่วนสูงถึง 20% ของการซื้อขายเงินตราต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งมีผลต่อความผันผวนของค่าเงินบาท

อย่างไรกตาม ธปท. ได้หารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้มีหน่วยงานที่เหมาะสมเข้ากำกับดูแลธุรกิจทองคำ โดยเฉพาะการซื้อขายทองคำออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มที่มีขนาดธุรกรรมใหญ่ขึ้นมาก และส่งผลให้เกิดความผันผวนของค่าเงินบาทอย่างชัดเจน อีกทั้ง ธปท. จะเข้าตรวจสอบการทำธุรกรรมขายเงินตราต่างประเทศเพื่อซื้อเงินบาท เพื่อป้องกันการนำเงินเข้าประเทศที่ไม่พึงประสงค์หรือไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจปกติ และการโอนเงินของบุคคลธรรมดา โดยจะให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศอย่างเคร่งครัด

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles