อินเตอร์เนชั่นแนล ลองชอร์เมน แอสโซซิเอชั่น หรือไอแอลเอ ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการขนถ่ายสินค้านำเข้าและส่งออกภายในบริเวณท่าเรือ ทางฝั่งตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า พนักงานในสหภาพแรงงานของไอแอลเอมีจำนวนมากถึงเกือบ 50,000 คนได้ประท้วงผละงานทั้งหมด ในท่าเรือขนส่งสินค้านำเข้าและส่งออกฝั่งตะวันออกรวมถึงท่าเรือในบริเวณอ่าวสำคัญใกล้เคียง ซึ่งมีจำนวนทั้งหมดกว่า 36 ท่าเรือ เช่น นิวยอร์ก นิวเจอส่งผลให้เป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 47 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1977 เป็นต้นมา
สาเหตุการผละงานประท้วงครั้งใหญ่ซึ่งเกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการเจรจาต่อรองให้มีการลงนามในสัญญาธุรกิจฉบับใหม่ที่มีระยะเวลาครอบคลุม 6 ปี และค่าจ้างใหม่กับอลิแอนซ์ มารีไทม์ สหรัฐอเมริกา หรือยูเอสเอ็มเอ็กซ์ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทเจ้าของและผู้บริหารท่าเรือ โดยมีสมาชิกสายเดินเรือขนส่งสินค้าจำนวนมากมายนั้น ไม่ประสบความสำเร็จตามเส้นตายที่สหภาพแรงงานดังกล่าวได้กำหนดไว้ก่อนเที่ยงคืนตรงของวันที่ 1 ตุลาคม 2024 ตามเวลาในฝั่งตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการหยุดงานครั้งใหญ่นี้ได้รับการคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกามากถึงวันละ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่าวันละ 165,000 ล้านบาท
ด้านธนาคารเจพี มอแกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะมีตั้งแต่วันละ 3,800-4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่าวันละ 125,400–148,500 ล้านบาท
การหยุดให้บริการของพนักงานเป็นจำนวนมากเกือบ 50,000 คนส่งผล กระทบต่อการขนส่งสินค้าเกือบทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นอาหาร รถยนต์ เครื่องจักรไฟฟ้าอุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น นอกจากนี้สินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศซึ่งมีกำหนดที่จะต้องขึ้นฝั่งท่าเรือด้านตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกาจะเผชิญกับปัญหาสินค้าค้างบนเรือขนส่งสินค้า หากการประชุมดังกล่าวยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน และอาจนำไปสู่ราคาสินค้ามีราคาแพงขึ้น เนื่องจากสินค้าไม่สามารถที่จะขนถ่ายออกจากท่าเรือทั้งฝั่งตะวันออกและบริเวณอ่าวทั้งหมดได้