สำนักงานติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหภาพยุโรป หรือ Copernicus Climate Change Service (C3S) ประกอบด้วยของเครือข่ายนักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศในสหภาพยุโรป หรืออียู เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านไป โลกมีอุณหภูมิร้อนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 1.52 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยอุณหภูมิที่ร้อนเป็นประวัติศาสตร์ของโลก และยังส่งผลให้เกิดสถิติอุณหภูมิเฉลี่ยที่ร้อนที่สุดมากเป็นประวัติศาสตร์ของโลกในเดือนพฤษภาคมผ่านไป ที่สำคัญเดือนพฤษภาคม 2024 ยังทำสถิติเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นหรือร้อนมากขึ้นเป็นเดือนที่ 12 ต่อกัน นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิที่ร้อนเพิ่มสูงขึ้นจะสามารถพบได้ในช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้
สาเหตุจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก กำลังส่งผลไปในทิศทางลบกับสภาวะอุณหภูมิสุดขั้ว ซึ่งเกิดขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทำให้อุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาถึง 1.63 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าระดับยุคก่อนเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมโลก ในขณะเดียวกันยังมีค่าเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นมาถึง 1.5 องศาเซลเซียสของตัวชี้วัดสภาวะอากาศร้อนที่บรรดานักวิทยาศาสตร์ และผู้กำกับนโยบาย เปิดเผยว่าจะกลายเป็นภัยคุกคามต่อสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลก
เมื่อเดือนพฤษภาคมผ่านไปประเทศอินเดียต้องเผชิญกับสภาวะวิกฤตอากาศมีอุณหภูมิร้อนจัดสูงถึงระดับ 50 องศาเซลเซียส ส่งผลให้มีประชาชนชาวอินเดียเกือบ 100 คนต้องเสียชีวิตจากสภาวะอากาศร้อนจัด ภายในช่วงระยะเวลาเพียง 2-3 วัน สอดคล้องกับสหราชอาณาจักร พบว่า ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านไปนั้น มีอุณหภูมิที่ร้อนจัดถึงขั้นทำลายสถิติเป็นประวัติศาสตร์เดิมซึ่งเกิดขึ้นในปี 2008