กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ต้องเร่งหาแนวทางในการดูแลราคาน้ำมันดีเซล ในภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกยังผันผวนหลังจากนี้ เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพประชาชนมากนัก
ทั้งนี้ เบื้องต้นไว้วางไว้ 3 แนวทาง ประกอบด้วย ทางเลือกแรก คือ การของบกลางของรัฐบาลมาบริหารจัดกลางดูแลราคาน้ำมันดีเซล
ทางเลือกต่อมา คือ การรอการจัดสรรงบประมาณโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 แล้วเสร็จ และจะขอความร่วมมือไปยังกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ให้พิจารณาปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และทางเลือกสุดท้าย คือ การขอมติคณะรัฐมนตรีให้อนุมัติเพิ่มเพดานราคาน้ำมันดีเซลจากปัจจุบันไม่เกิน 33 บาท/ลิตร ไปเป็นเพดานราคาไม่เกินลิตรละ 35 บาท
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ยอมรับว่า ขณะนี้ สถานะกองทุนพลังงานเกิดวิกฤต สำหรับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิฯ เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 67 พบง่า -111,345 ล้านบาท ประกอบด้วย บัญชีน้ำมันติดลบ 63,655 ล้านบาท และบัญชีก๊าซฯ แอลพีจี ติดลบ 47,690 ล้านบาท
ขณะที่ในวันนี้ 31 พฤษภาคม 2567 ราคาน้ำมันดีเซลทุกประเภทมีราคาขายปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลราคาขายขึ้นมาเป็น 32.99 บาทต่อลิตร ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นราคารวม 6 ครั้งสุทธิ 3.00 บาท/ลิตร ทำสถิติราคาน้ำมันดีเซลสูงสุดในรอบ 1 ปี 1 เดือนผ่านมา
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศของแต่ละปั้มมีราคาแตกต่างกัน โดยพบว่า วันนี้ 31 พฤษภาคม 2567 ราคาน้ำมันดีเซลของเชลล์เกรดพรีเมี่ยมที่เรียกว่า วีพาวเวอร์-ดีเซล มีราคาสูงสุดถึงลิตรละ 50.24 บาท ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 2 ครั้งติดต่อกันรวม 1.50 บาท/ลิตร โดยตั้งแต่วันที่ 29 ปรับขึ้น 1 บาท/ลิตร และวันที่ 30 ปรับขึ้น 50 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลเกรดดังกล่าวมีราคาถึง 2 ลิตรกว่า 100 บาท
สอดรับกับราคาน้ำมันดีเซลของเชลล์เกรดธรรมดาที่เรียกว่า ฟิวเซฟ-ดีเซล มีราคาสูงสุดถึงลิตรละ 33.64 บาท ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 2 ครั้งติดต่อกันรวม 0.60 บาท/ลิตร โดยตั้งแต่วันที่ 29 ปรับขึ้น 0.30 บาท/ลิตร และวันที่ 30 ปรับขึ้น 0.30 บาท/ลิตร