นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรสัปดาห์นี้ ส่วนใหญ่ทรงตัว เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน แต่ราคาข้าวเปลือกทุกตัวสูงขึ้นกว่าปีก่อน ซึ่งเป็นผลดีต่อเกษตรกร โดยข้าวหอมมะลิราคา 15,750 บาทต่อตัน ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ราคา 15,550 บาทต่อตัน ข้าวหอมปทุมธานี 15,300 บาทต่อตัน ข้าวเจ้า 12,000 บาทต่อตัน ข้าวเหนียวเมล็ดยาว 13,900 บาทต่อตัน ส่วนมันสำปะหลัง ราคาทรงตัว 3.08 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (ความชื้น 14.5%) ราคาอยู่ที่ 11.60 บาทต่อกก. ปาล์มน้ำมันราคาอยู่ที่ 5.05 บาทต่อกก. เนื้อสัตว์ส่วนใหญ่ราคาปรับลดลง โดยหมูเนื้อแดงสัปดาห์นี้ เฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 129.88 บาท ไก่และไข่ไก่เริ่มมีแนวโน้มปรับลดลง เนื่องจากฝนตกทำให้สภาวะอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเลี้ยงมากขึ้น โดยไก่เนื้อน่องติดสะโพก เฉลี่ยกก.ละ 81.44 บาท เนื้อน่องเฉลี่ยกก.ละ 84.63 บาท เนื้อสะโพกเฉลี่ย กก.ละ 85.63 บาท และเนื้ออกเฉลี่ยกก.ละ 84.88 บาท ใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ไข่ไก่คละ เฉลี่ยฟองละ 4.00 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 4.23 บาท
สำหรับสัตว์น้ำ ราคาทรงตัว โดยปลานิล กก.ละ 74.50 บาท ปลาทับทิม 106 บาท ปลาดุก 75.80 บาท กุ้งขาว (70 ตัว/กก.) กก.ละ 186 บาท ผักส่วนใหญ่ราคาปรับลดลง เนื่องจากสภาพอากาศดีมีฝนตก โดยผักคะน้า กก.ละ 33.30 บาท ถั่วฝักยาว กก.ละ 54 บาท กะหล่ำปลี กก.ละ 36 บาท กวางตุ้ง กก.ละ 29.30 บาท ผักบุ้งจีน กก.ละ 27.90 บาท ต้นหอม กก.ละ 107 บาท ผักชี กก.ละ 118.40 บาท พริกขี้หนูจินดา 82.50 บาท ส่วนมะนาว (เบอร์ 1-2) อยู่ที่ 3.45 บาท
อย่างไรก็ตามกรมฯจะติดตามราคาสินค้าทุกรายการใกล้ชิด การขึ้นลงสินค้าถือเป็นไปตามกลไกตลาด หากไม่ให้ฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าขึ้นโดยใช้เหตุผลต้นทุนแพงขึ้น หากพบพฤติกรรมการเอารัดเอาเปรียยผู้บริโภคจะดำเนินคดทางกฎหมายทันที ซึ่งมีโทษปรับและจำคุกอีกด้วย
ส่วนสถานการณ์ผลไม้ ปีนี้ถือเป็นปีทองอีกหนึ่งปีสำหรับผลไม้ไทย เพราะราคาตลาดส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยผลไม้ภาคตะวันออกออกใกล้หมดแล้ว ทุเรียนและมังคุด ออกแล้ว 99% โดยทุเรียนเกรดส่งออกหรือเกรด AB กก.ละ 155 บาท เพิ่มขึ้น 3% จากราคาปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 150 บาท ส่วนเกรดส่งออกรองหรือเกรด C กก.ละ 125 บาท เพิ่ม 14% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 110 บาท และเกรด D กก.ละ 112.50 บาท เพิ่ม 13% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 100 บาท มังคุด เกรดส่งออกหรือมันรวม กก.ละ 65 บาท เกรดส่งออกรองหรือเกรดกากลาย กก.ละ 52.50 บาท เกรดคละ กก.ละ 45 บาท และเงาะโรงเรียน ออกแล้ว 94% เกรดส่งออก กก.ละ 43.50 บาท เพิ่ม 24% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 35 บาท เกรดในประเทศ กก.ละ 41.50 บาท เพิ่มจาก 48% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 28 บาท เงาะพันธุ์สีทองเกรดส่งออก กก.ละ 34 บาท เพิ่มขึ้น 48% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 23 บาท และเกรดในประเทศ กก.ละ 31 บาท เพิ่ม 72% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 18 บาท
ทางด้านผลไม้ภาคใต้ ขณะนี้กำลังออกสู่ตลาด โดยทุเรียนภาคใต้ ออกแล้ว 30% ทุเรียนเกรดส่งออกหรือเกรด AB กก.ละ 150 บาท เพิ่มขึ้น 25% จากราคาปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 120 บาท เกรดส่งออกรองหรือเกรด C กก.ละ 112.50 บาท เพิ่ม 7% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 105 บาท และเกรด D กก.ละ 105 บาท เพิ่ม 9% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 96 บาท มังคุดใต้ ออกแล้ว 2% โดยเกรดส่งออกหรือมันรวม กก.ละ 65.50 บาท เกรดส่งออกรองหรือเกรดกากลาย กก.ละ 53.50 บาท เกรดคละ กก.ละ 45 บาท
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดจัดกิจกรรม “Thai Fruit Festival 2024 by MOC” ระหว่างวันที่ 4-7 กรกฎาคม 2567 ที่ลานฟรี เซ็นทรัลเวิลด์ รณรงค์ให้บริโภคผลไม้ไทยให้ผลไม้ไทยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้ชิม ช้อปผลไม้สดส่งตรงจากสวนเกษตรกร ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กรมการค้าภายในร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาคเอกชน เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ต่างๆ วางแผนร่วมกันบริหารจัดการราคาผลไม้ภาคใต้ให้ได้ราคาดีและไม่ตกต่ำ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวน จากผลกระทบผลไม้ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงนี้ถึงคิวผลไม้ภาคใต้อย่าง ทุเรียน มังคุด ลองกอง ลำใย และผลไม้อื่นๆ คาดว่าจะช่วยให้เกษตรกรขายผลไม้ได้ราคาดีตลอดฤดูกาล