นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้าและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนายสุดเขต บริบูรณ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก รัสเซีย ถึงการติดตามสถานการณ์ตลาดเครื่องดื่ม Plant-Based ในรัสเซีย แนวโน้มการเติบโต และโอกาสในการขยายตลาดส่งออกสำหรับผู้ประกอบการไทย
โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า ข้อมูลของบริษัทวิจัย NTech ระบุว่า ในปี 2567 ขนาดของตลาดรัสเซียสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีฐานจากพืช (plant-based) ซึ่งเป็นทางเลือกนอกจากผลิตภัณฑ์นมแบบดั้งเดิม(traditional dairy product) อยู่ที่ประมาณ 21,100 ล้านรูเบิล เพิ่มขึ้น 27.7% โดยการเติบโตอาจจะชะลอลงไปบ้าง แต่ตลาดก็อาจเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวได้ภายในปี 2573 คาดว่าจะแตะระดับอยู่ที่ 40,000 ล้านรูเบิล ซึ่งการเติบโตของผลิตภัณฑ์ที่มีฐานจากพืชในตลาดรัสเซียจะไม่ได้เป็นไปในลักษณะแบบก้าวกระโดดแต่จะเป็นการเติบโตไปอย่างคงที่ต่อเนื่อง
ขณะที่บริษัท Health & Nutrition ได้ให้ข้อมูลว่า แม้ผลิตภัณฑ์ที่มีฐานจากพืชจะเป็นสินค้าสำหรับตลาดเฉพาะกลุ่ม (niche) ในรัสเซีย แต่ก็มีแรงผลักดันที่จะทำให้มีการเติบโตและเกิดความนิยมในรัสเซียได้ เช่น การพัฒนาด้านเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และความต้องการโภชนาการแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งพลวัตดังกล่าวจะเห็นได้ชัดโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ และในกลุ่มคนหนุ่มสาว โดยการเติบโตของผลิตภัณฑ์
ที่มีฐานจากพืชไม่ได้เป็นการเข้ามาทดแทนหรือแทนที่ผลิตภัณฑ์นมแบบดั้งเดิม แต่เป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์และรูปแบบการบริโภคใหม่ ๆ
ทางด้านกระทรวงเกษตรของรัสเซีย รายงานว่า การผลิตผลิตภัณฑ์นมในรัสเซียเพิ่มขึ้น โดยในเดือน ม.ค.2568 การผลิตนมสำหรับดื่มมีจำนวน 527,000 ตัน เพิ่มขึ้น 4.8% และยังเห็นการเพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์นมประเภทอื่น ๆ ด้วย เช่น ผลผลิตของผลิตภัณฑ์นมหมัก 229,000 ตัน เพิ่มขึ้น 3.9% ชีส 68,100 ตัน เพิ่มขึ้น 0.9% โยเกิร์ต 67,000 ตัน เพิ่มขึ้น 8.6% คอทเทจชีส 40,000 ตัน เพิ่มขึ้น 3.9% ครีม 29,000 ตัน เพิ่มขึ้น 3.3% และไอศกรีม 28,000 ตัน เพิ่มขึ้น 8.7%
“ปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์ที่มีฐานจากพืชของรัสเซีย จะยังคงเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่มีแนวโน้มที่ดีที่จะสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างเรื่อย ๆ จึงเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะเข้ามาเจาะตลาดผลิตภัณฑ์ที่มีฐานจากพืชในรัสเซีย โดยในระยะเริ่มแรกของการเจาะและขยายตลาด อาจเน้นไปที่กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาวในเมืองใหญ่ เช่น กรุงมอสโก และนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และโนโวซีบีสค์ เป็นต้น”นางสาวสุนันทากล่าว