นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ยอดการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนในเดือน พ.ย.67 มีมูลค่าการค้ารวม 150,203 ล้านบาท ขยายตัว 4.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการส่งออก 85,676 ล้านบาท ขยายตัว 15.3% และการนำเข้า 64,527 ล้านบาท ลดลง 8.0% โดยไทยได้ดุลการค้า 21,149 ล้านบาท ทำให้ในช่วง 11 เดือนของปี 2567 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่าการค้ารวม 1,665,295 ล้านบาท ขยายตัว 6.0% เป็นการส่งออก 957,945 ล้านบาท ขยายตัว 6.5% และการนำเข้า 707,350 ล้านบาท ขยายตัว 5.4% โดยไทยได้ดุลการค้าทั้งสิ้น 250,596 ล้านบาท
มูลค่าการค้ารวม 82,439 ล้านบาท ขยายตัว 4.6% เป็นการส่งออก 51,707 ล้านบาท ขยายตัว 5.7% การนำเข้า 30,732 ล้านบาท ขยายตัว 2.8% และไทยได้ดุลการค้า 20,974 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับมาเลเซีย มีมูลค่าสูงสุด 25,395 ล้านบาท ขยายตัว 2.8% รองลงมา คือ สปป.ลาว 23,865 ล้านบาท ขยายตัว 1.3% ตามด้วย เมียนมา 18,286 ล้านบาท ขยายตัว 1.9% และกัมพูชา 14,893 ล้านบาท ขยายตัว 18.1%
สินค้าส่งออกชายแดนสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล 3,479 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 1,597 ล้านบาท และน้ำยางข้น 1,320 ล้านบาท ส่งผลให้ 11 เดือนแรกของปี 2567 การค้าชายแดนมีมูลค่าการค้ารวม 899,095 ล้านบาท ขยายตัว 5.1% เป็นการส่งออก 551,676 ล้านบาท ขยายตัว 3.2% การนำเข้า 347,419 ล้านบาท ขยายตัว 8.4% และไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 204,256 ล้านบาท
มูลค่าการค้ารวม 67,764 ล้านบาท ขยายตัว 3.2% เป็นการส่งออก 33,969 ล้านบาท ขยายตัว 33.8% และการนำเข้า 33,795 ล้านบาท ลดลง 16.1% โดยการค้าผ่านแดนไปจีนมีมูลค่าสูงสุด 37,264 ล้านบาท ขยายตัว 9.0% รองลงมาคือ สิงคโปร์ และเวียดนาม มีมูลค่า 8,859 ล้านบาท ขยายตัว 2.7% และ 5,867 ล้านบาท ขยายตัว 19.3% ตามลำดับ
สินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญ ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ 7,497 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ 3,006 ล้านบาท และยางแท่ง TSNR 2,344 ล้านบาท ส่งผลให้ 11 เดือนแรกของปี 2567 การค้าผ่านแดนมีมูลค่าการค้ารวม 766,199 ล้านบาท ขยายตัว 7.0% เป็นการส่งออก 406,269 ล้านบาท ขยายตัว 11.2% การนำเข้า 359,930 ล้านบาท ขยายตัว 2.6% และไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 46,339 ล้านบาท
การส่งออกชายแดนไปเมียนมากลับมาขยายตัวอีกครั้ง โดยในเดือน พ.ย.67 มีมูลค่า 11,402 ล้านบาท ขยายตัว 6.5% แม้สถานการณ์สู้รบในเมียนมาจะทำให้การค้าชายแดนไทย-เมียนมาหยุดชะงักและเส้นทางขนส่งทางบกไม่ปลอดภัยในพื้นที่บริเวณตรงข้ามด่านแม่สอด จังหวัดตาก แต่ความต้องการสินค้าจากไทยยังคงมีอยู่สูง จึงมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งสินค้าไปใช้จุดผ่านแดนอื่น ๆ ที่มีความพร้อม อาทิ ด่านศุลกากรระนอง มูลค่าการส่งออก 2,257 ล้านบาท ขยายตัว 131.0% ด่านศุลกากรแม่สาย มูลค่าการส่งออก 1,496 ล้านบาท ขยายตัว 13.0% และด่านศุลกากรสังขละบุรี มูลค่าการส่งออก 708 ล้านบาท ขยายตัว 714.5% โดยสินค้าส่งออกสำคัญผ่านทั้ง 3 ด่านดังกล่าว ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ เครื่องดื่ม และกระเบื้องปูพื้น เป็นต้น
สำหรับในปี 2568 กรมฯ มีแผนงานเชิงรุกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและสร้างโอกาสทางการค้าให้ผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย โดยจะจัดกิจกรรมภายใต้โครงการเสริมสร้างความเข็มแข็งทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสทางการค้าให้ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการรายย่อยในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ในทุกภูมิภาคตามพื้นที่แนวชายแดนหรือระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ โดยจะประเดิมงานแรกที่งาน “พาณิชย์นำทัพสินค้าชุมชน จัดงานแสดงสินค้าโคราช มอบของขวัญปีใหม่ 2568” ระหว่างวันที่ 23-26 ม.ค.68 ณ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา และจะจัดกิจกรรมต่อเนื่องในพื้นที่ตามแนวชายแดนหรือระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่รัฐบาลส่งเสริมการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการกระจายการลงทุนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การกระจายความเจริญและความมั่งคั่งไปยังจังหวัดตามแนวชายแดนหรือแนวระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชาชนในพื้นที่