นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 สหภาพยุโรป (European Union: EU) ได้ประกาศรายชื่อประเทศที่ถูกจัดในระบบ Benchmarking หรือ Country Classification List ซึ่งเป็นการประกาศรายชื่อประเทศตามระดับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ การผลิตสินค้าที่อาจเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า ภายใต้มาตรการสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า (Deforestation-free Products Regulation: EUDR) แบ่งออกเป็น ระดับ 3 กลุ่มคือ กลุ่มประเทศความเสี่ยงต่ำ (Low-Risk Country) กลุ่มประเทศความเสี่ยงปานกลาง (Standard-Risk Country) และกลุ่มประเทศความเสี่ยงสูง (High-Risk Country) โดยไทย สิงค์โปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สปป.ลาว และบรูไน ได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศความเสี่ยงต่ำ กล่าวคือ สินค้าที่ส่งออกจากประเทศ Low-Risk ไปยัง EU จะมีขั้นตอนในการยื่นข้อมูล เอกสาร หรือการตรวจสอบย้อนกลับถึงพื้นที่ที่ใช้สำหรับการเพาะปลูกหรือเก็บเกี่ยววัตถุดิบให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ EU กำหนด ที่เข้มงวดน้อยกว่ากลุ่มประเทศ Standard-Risk เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา และกลุ่มประเทศ High-Risk เช่น เมียนมา เป็นต้น
ทั้งนี้ มาตรการ EUDR มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการซื้อสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า รวมถึงรับมือการแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของป่าทั่วโลก ทั้งที่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าที่ผิดกฎหมายและจากการขยายตัวทางการเกษตร ซึ่งครอบคลุมสินค้าทั้งหมด 7 รายการ ได้แก่ วัว ไม้ ปาล์มน้ำมัน ถั่วเหลือง กาแฟ โกโก้ และยางพารา รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสินค้าดังกล่าว ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องตรวจสอบย้อนกลับฯ ตามกลุ่มประเทศความเสี่ยงดังกล่าว โดยผู้ประกอบการขนาดใหญ่จะต้องแสดงรายงานดังกล่าวให้กับหน่วยงานของ EU ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็ก และรายย่อย (SMEs) จะต้องแสดงรายงานตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2569 เป็นต้นไป
นางอารดาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2567 ไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้า EUDR ไปตลาดโลก 10,998.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีมูลค่าการส่งออกสินค้า EUDR ไปตลาด EU 694.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.31 ของสินค้า EUDR จากไทยไปโลก การที่ไทยได้รับการจัดอันดับเป็นประเทศ Low-Risk ภายใต้ EUDR ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนด้านการตรวจสอบเอกสารและเสริมความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาด EU นอกจากนี้ผู้ประกอบการไทยสามารถวางแผนส่งออกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้โอกาสนี้ในการขยายตลาดให้เติบโตต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ https://green-forum.ec.europa.eu/deforestation-regulation-implementation/eudr-cooperation-and-partnerships/country-classification-list_en