นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศในปัจจุบันที่มีความท้าทายสูงจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอน ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนแต่การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยยังคงมีแนวโน้มสดใสและขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 8 เดือน (ม.ค. – ส.ค. 2567) ไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดโลก มูลค่า 19,826 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเป็นการส่งออกไปกลุ่มประเทศคู่ค้าที่ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ด้วย มูลค่า 13,774 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนถึง 69% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด ซึ่งไทยครองแชมป์เป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรอันดับที่ 1 ของอาเซียน และเป็นอันดับที่ 8 ของโลก
ส่วนตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ จีน สัดส่วนกว่า 31% ของการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยทั้งหมด อาเซียน สัดส่วน 15% ญี่ปุ่น สัดส่วน 11% และเกาหลีใต้ สัดส่วน 3% ตลาดที่เติบโตได้ดี ได้แก่ อาเซียน ขยายตัว 39% อินเดีย ขยายตัว 34% ออสเตรเลีย ขยายตัว 23% สิงคโปร์ ขยายตัว 10% เกาหลีใต้ ขยายตัว 9% และญี่ปุ่น ขยายตัว 7%
เมื่อพิจารณาสถิติการส่งออกรายเดือน พบว่าความต้องการสินค้าเกษตรไทยเพิ่มขึ้น โดยในช่วงเดือนส.ค.2567 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปประเทศคู่เอฟทีเอ มูลค่า 1,651 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 9% จากเดือนก่อนหน้า ตลาดเอฟทีเอ เติบโตเพิ่มขึ้น อาทิ จีน และญี่ปุ่น ขยายตัว 11% อินเดีย ขยายตัว 24% นิวซีแลนด์ ขยายตัว 34% อาเซียน ขยายตัว 4% ฮ่องกง ขยายตัว 2% และชิลี ขยายตัว 428%
ในช่วงเดือน ส.ค. 2567 การส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญ 5 อันดับต้นของไทย ขยายตัวเป็นที่น่าพอใจทุกรายการ โดยสินค้าเกษตรที่ไทยส่งออกเป็นอันดับที่หนึ่ง คือ ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง มูลค่า 604 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 21% จากเดือนก่อนหน้า ตามด้วย ข้าว มูลค่า 562 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 41% ยางพารา มูลค่า 497 ล้านดอลลาร์ขยายตัว 9% ไก่ มูลค่า 392 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 6% และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง มูลค่า 260 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 2%
สำหรับแนวโน้มการส่งออกสินค้าเกษตรไทยมีโอกาสขยายตัวมากขึ้น ดังนั้นถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายส่งออกไปตลาดต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ อย่างเต็มที่