พาราเมาท์ สกายแดนซ์ (Paramount Skydance) ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และบันเทิงระดับโลกของสหรัฐอเมริกา นำโดยนายเดวิด เอลลิสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ เปิดเผยว่า ได้ยื่นข้อเสนอซื้อทรัพย์สินของบริษัทวอร์เนอร์ บราเดอร์ เป็นมูลค่ารวม 108,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.47 ล้านล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย สตูดิโอหรือโรงถ่ายทำภาพยนตร์ ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่นเดียวกันกับขอเสนอของเน็ตฟลิกซ์ อินคอร์เปอร์เรชั่น ที่ได้ประกาศเสนอซื้อทรัพย์สินประเภทเดียวกันไปเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 ที่ผ่านมาด้วยราคารวม 82,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.65 ล้านล้านบาท ส่งผลให้ราคารวมเสนอซื้อกิจการของพาราเมาท์ สกายแดนซ์ สูงกว่า 822,000 ล้านบาทเมื่อเทียบกับเน็ตฟลิกซ์ อินคอร์เปอร์เรชั่น
นายเดวิด เอลลิสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ เปิดเผยว่า ข้อเสนอซื้อทรัพย์สินในครั้งนี้เป็นไปในรูปแบบการซื้อทรัพย์สินแบบไม่เป็นมิตรซึ่งมีลักษณะของการติดต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทวอลเนอร์ บราเดอร์ โดยตรงด้วยการเสนอ ให้ราคาเสนอซื้อหุ้นที่หุ้นละ 30 ดอลลาร์สหรัฐ กว่า 960 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้ราคาเสนอซื้อหุ้นดังกล่าวสูงกว่าของเน็ตฟลิกซ์ อินคอร์เปอร์เรชั่น ที่เสนอให้ราคาซื้อในหุ้นละ 23.25 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 745 บาทต่อหุ้น นอกจากนี้ อีกส่วนหนึ่งใช้เงินสดในการยื่นเสนอซื้อกิจการอีกด้วย
สำหรับเงินทุนของบริษัทพาราเมาท์ สกายแดนซ์ จะเป็นการระดมทุนที่มาจากครอบครัวเอลลิสัน ซึ่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนปัจจุบันเป็นลูกชายของนายแลรี่ เอลลิสัน ที่เป็นมหาเศรษฐีมีความร่ำรวยในอันดับที่ 2 ของโลก และของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีเงินทุนจากบริษัทเรดเบิร์ด แคปปิตอล ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนในธุรกิจเอกชนที่มีความมั่งคั่ง และ มีการระดมทุนด้านสินเชื่อจากสามสถาบันการเงินชื่อดังในสหรัฐอเมริกาประกอบด้วยธนาคารซิตี้กรุ๊ป ธนาคารแบงค์ ออฟ อเมริกา และโกลบอล อพอลโล แมเนจเม้นท์
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 ที่ผ่านมา เน็ตฟลิกซ์ อินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการสตรีมมิ่งภาพยนตร์ที่มีอายุมา 28 ปี เปิดเผยว่า ได้เข้าซื้อธุรกิจสตูดิโอ หรือโรงถ่ายภาพยนตร์ ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งภาพยนตร์ของบริษัทดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งเป็นบริษัทลูกอยู่ในเครือของบริษัทวอร์เนอร์ บราเดอร์ ยักษ์ใหญ่ระดับตำนานในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่มีมีอายุมาถึง 102 ปีในสหรัฐอเมริกา
สำหรับข้อตกลงในการซื้อกลุ่มธุรกิจในครั้งนี้ส่งผลให้ Netflix เป็นเจ้าของเต็มรูปแบบกับสินทรัพย์ ได้แก่ โรงถ่ายทำภาพยนตร์หรือสตูดิโอ ที่มีอายุเก่าแก่มานานนับ 100 ปีของวอร์เนอร์ บราเดอร์ ภาพยนตร์ทั้งหมดในชื่อเอชบีโอ(HBO) ภาพยนตร์ทั้งหมดในชื่อเอชบีโอแม็กซ์(HBO MAX) และลิขสิทธิ์ของภาพยนตร์ที่เป็นระดับตำนานและมีชื่อเสียงตลอดกาล ได้แก่ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เกม ออฟ ธรอนส์, การ์ตูนดีซี คอมมิคส์ เป็นต้น
สำหรับมูลค่าการเข้าซื้อดังกล่าวในภาพรวมของดีลครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 82,700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.65 ล้านล้านบาท ไม่เพียงส่งผลเป็นดีลการเสนอซื้อกิจการที่มีมูลค่าใหญ่ดีลหนึ่งในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูด แต่ยังส่งผลให้เป็นการเข้าซื้อกิจการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเน็ตฟลิกซ์ โดยใช้ทั้งเงินสดและหุ้นของเน็ตฟลิกซ์เข้าซื้อสินทรัพย์ หรือหุ้นของวอร์เนอร์ บราเดอร์เป็นมูลค่า 72,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.3 ล้านล้านบาท
ในส่วนธุรกรรมของหุ้นนั้น ผู้ถือหุ้นแต่ละรายของบริษัทวอร์เนอร์ บราเดอร์ จะได้รับเงินสดมูลค่าหุ้นละ 23.25 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 745 บาทต่อหุ้น และได้รับหุ้นเน็ตฟลิกซ์ในราคาหุ้นละ 4.50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 145 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้มูลค่ารวมทั้งหมดเป็น 72,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.3 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ เน็ตฟลิกซ์ตกลงที่จะซื้อหนี้ทั้งหมดของกลุ่มธุรกิจของบริษัทวอร์เนอร์ บราเดอร์ ด้วย ส่งผลให้มูลค่ารวมทั้งหมดเป็น 82,700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.65 ล้านล้านบาท
การเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจดังกล่าวถือเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นระหว่างเน็ตฟลิกซ์ และบริษัทพาราเมาท์ สกายแดนซ์ ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลก เน็ตฟลิกซ์ชนะด้วยการเสนอซื้อหุ้นในราคาที่ 28 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีราคาสูงกว่าคู่แข่ง
ทั้งนี้ เน็ตฟลิกซ์ อินคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยต่อไปว่าเมื่อการเข้าสู่กิจการเกิดขึ้นสมบูรณ์แบบซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาจนถึงไตรมาสที่สามของปี 2026 นั้นคาดว่า เน็ตฟลิกซ์จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ระหว่าง 2,000 ถึง 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 64,000-96,000 ล้านบาทภายในปีที่ 3