นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลยังเดินหน้าโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 เพราะได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอรับสิทธิไว้แล้ว อีกทั้งรัฐบาลได้เตรียมงบประมาณไว้รองรับแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการตั้งคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาทำหน้าที่พิจารณารายละเอียด ว่าจะจ่ายเงินอย่างไร จ่ายเมื่อไร และจ่ายด้วยวิธีไหน
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่ารัฐบาลยังเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพราะมิติในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ยังเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาล ที่จะพัฒนาให้ประเทศเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาว แต่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ยังไม่ได้มีการพูดถึงโครงการในเฟส 2 แต่เป็นการพูดคุยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มเปราะบาง 1.45 แสนล้านบาท และมีการพูดถึงโครงการในอนาคตบ้าง เช่น กลุ่มที่จะได้รับการพิจารณาเป็นกลุ่มถัดไป ซึ่งเป็นเฟสต่อไปที่ได้รับโจทย์มาเพื่อพิจารณาต่อ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด และยังไม่มีแนวคิดที่จะเสนอเป็น พ.ร.บ.เพื่อพิจารณางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 68 เพื่อนำมาใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต อย่างไรก็ตามจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อเข้ามาดูเรื่องการใช้งบประมาณ และโครงการที่จะเดินหน้าต่อ รวมไปถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วย
ขณะที่นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับโครงการเฟส 2 ต้องรอให้มีการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ที่จะเข้ามาดูแลเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เข้ามาพิจารณา โดยคาดว่านายกรัฐมนตรีจะลงนามแต่งตั้งได้ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นน่าจะเริ่มประชุมได้ทันที โดยคณะกรรมการชุดใหม่นี้ จะมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ร่วมด้วยกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และสำนักงบประมาณ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมด้วย หลังจากที่คณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่เคยดูดิจิทัลวอลเล็ตก่อนหน้านี้ ถูกล้มไปตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลมีงบประมาณ 1.87 แสนล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ เพราะงบประมาณดังกล่าวอยู่ในหมวดงบกลางรายการกระตุ้นเศรษฐกิจและเสริมสร้างความเข็มแข็งของเศรษฐกิจ ดังนั้นหากเป็นการกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจก็สามารถใช้งบประมาณในส่วนนี้ได้ทั้งหมด หากรัฐบาลจะใช้เม็ดเงินดังกล่าวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตทั้งหมด ก็สามารถทำได้ หรือหากมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา ก็อาจจะปรับเงื่อนไขของดิจิทัลวอลเล็ตลง เช่น ก่อนหน้านี้มีข้อเสนอให้แบ่งจ่ายครั้งละ 5,000 บาท ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดี ตรงนี้สามารถทำได้ทั้งหมด โดยรายละเอียดต่าง ๆ อยากให้รอความชัดเจนภายหลังการประชุมของคณะกรรมการชุดใหม่ ส่วนประชาชนในกลุ่มอื่นที่ไม่ได้รับสิทธิในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น รัฐบาลก็อาจพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆรองรับ