นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงาน เดลินิวส์ทอล์ก 2024 “ก้าวต่อไปของประเทศไทย” ในหัวข้อ ”ถอดรหัส…. โอกาสเศรษฐกิจไทย“ ว่า ตลาดทุน ยังมีแรงผลักจากกองทุนวายุภักษ์ 1 มูลค่านับแสนล้านบาท กองทุน Thailand ESG และกองทุนอื่นๆ ขณะที่นักลงทุนและต่างชาติยังลงทุนอยู่ เพราะหวังจากผลตอบแทน จากดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหว 1,700-1,800 จุด ดังนั้นเพื่อสร้างโอกาสในการลงทุน ต้องทำให้ความหวัง ความฝัน นำไปสู่การปฏิบัติจริง เกิดผลเป็นรูปธรรม
ขณะที่สถานกาณณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ยังมีปัญหาความขัดแย้งทางภูมิภาคของประเทศยักษ์ใหญ่ การแข่งขันต้นทุนการผลิต การย้ายฐานการผลิต แต่ไทยยังมีโอกาส เพราะตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางเชื่อมโยงกับหลายภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง เป็นจุดรวมของหลายกองทุนขนาดใหญ่ ปัจจุบันมีเงินทุนล้นเหลือ การเปิดตลาดไปสู่อินเดีย เพราะเศรษฐกิจยังขยายตัวสูง และเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติให้เข้ามาลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ควรเปิดทางให้เช่า หรือใช้สิทธิในในที่ดินระยะยาว จากเดิมเช่า 30 ปี ให้ขยายเพิ่มถึง 60-70 ปี เพราะสิทธิ์ในที่ดินมี 2 ประเภท คือ ความเป็นเจ้าของและสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์ เนื่องจากการลงทุนขนาดใหญ่ต้องขยายเพิ่มมากกว่า 30 ปี ควรขยายเพิ่มเติม อาจต้องปรับปรุงทรัพย์อิงสิทธิ์ โดยตั้งหน่วยงานกลาง SPV เป็นตัวกลางในการดูแลถือครองที่ดิน ของนักลงทุนต่างชาติ เพราะท้ายที่สุด เอกสิทธิ์หรือความเป็นเจ้าของในที่ดิน ต่างชาตินำออกไปไม่ได้ จึงต้องใช้โอกาสนี้ สำหรับพื้นที่ว่างอีกจำนวนมากถึง 330 ล้านไร่ นำมาใช้ประโยชน์ดึงดูดการลงทุน
ทั้งนี้ การสร้างโอกาสและดึงการลงทุน ต้องเตรียมพร้อมจัดหาพื้นที่ตั้งโรงงาน แหล่งลงทุนในอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมายให้พร้อม ต้องแก้ไขหลักเกณฑ์จัดสรรพื้นที่อย่าให้ติดขัด การอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ Doing Business กับนักลงทุนต่างชาติ การพัฒนาแรงงานคุณภาพ สภาพัฒน์ระบุจีดีพีเติบโตร้อยละ 2.5 ในปี 67 จากร้อยละ 1.9 ในปี 66 ขณะที่ศักยภาพเศรษฐกิจไทยควรขยายตัวร้อยละ 3.5 มองว่ายังปรับเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจไทยได้ ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ การส่งออกชะลอตัว ยังไม่สามารถแข่งขันกับตลาดเต็มที่