นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าความคืบหน้าการนำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ในเรื่องอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยที่ 19% เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่ยังต้องใช้เวลาอีกระยะ เนื่องจากต้องมีการจัดทำรายละเอียดในแต่ละข้อตกลง รวมถึงข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องภาษีสหรัฐฯ และจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสที่ทำให้ผู้ประกอบการของไทยได้มีการปรับตัว เพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่งสำคัญได้
นายพิชัย กล่าวว่าเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย ที่รัฐบาลเคยคาดหวังไว้ที่ปีละ 3-5% หากไม่มีอุปสรรคใด ๆ เพิ่มเติม ก็จะตั้งเป้าหมายไว้อย่างนั้น ขณะเดียวกัน ก็จำเป็นต้องมีการแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ร่วมด้วยเหมือนที่ตนได้เคยพูดไว้ เพราะหากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข โอกาสที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้นไปอยู่ในระดับดังกล่าว ก็อาจจะทำได้ลำบาก และจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือ ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนด้วย
สำหรับงบประมาณที่ใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ซึ่งยังเหลืออีกราว 25,000 ล้านบาท นายพิชัยระบุว่า ยังมีอีกหลายโครงการที่จำเป็นต้องใช้เงินส่วนนี้ เช่น นำมาใช้เกี่ยวกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา