นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังงานพิธีลงนามการร่วมทุนจัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด (ARI-AMC) ระหว่างธนาคารออมสิน และบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM) หรือ แบม ว่าสำหรับกฎหมายติดแบล็กลิสต์ อยู่ระหว่างการพิจารณาในส่วนของกฎหมายว่าจะร่นระยะเวลาการลงได้หรือไม่ เพื่อให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวสามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้
นายพิชัย กล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่าสังเกตว่าเวลาติดแบล็กลิสต์ คือ 5 ปี บวกกับอีก 3 ปีที่เก็บข้อมูลไว้ รวมกันเป็นติดสถานะมีประวัติค้างชำระหนี้ 8 ปี ถือว่ายาวเกินไป ดังนั้นคงต้องไปดู โดยจะลดในส่วนของแบล็กลิสต์ 5 ปีแรกให้เร็วขึ้น เช่น เหลือติดแบล็กลิสต์แค่ 2 ปี บวกกับ 3 ปี หรือเหลือ 1 ปี บวกกับ 3 ปี เป็นต้น โดยส่วนตัวมีแผนอยู่แล้ว คิดว่ากฎหมายติดแบล็กลิสต์ 8 ปี มันยาวเกินไป ซึ่งก็ขอไปดูกฎหมายก่อนว่ามีอะไรบ้าง แต่คิดว่าถ้าเร่งกระบวนการ ถ้าเราเร่งให้สั้นลงได้ก็จะช่วยประชาชนได้
สำหรับการติดแบล็กลิสต์ คือหลักเกณฑ์การส่งข้อมูลลูกหนี้ค้างชำระให้บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ โดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต กำหนดให้สถาบันการเงินสมาชิกของเครดิตบูโรนำส่งข้อมูลลูกหนี้ค้างชำระหนี้เกิน 90 วัน หรือลูกหนี้เอ็นพีแอลให้แก่เครดิตบูโรเป็นระยะเวลา 5 ปี และให้เครดิตบูโรจัดเก็บข้อมูลลูกหนี้ต่อไปอีก 3 ปี รวมเวลาที่ข้อมูลลูกหนี้ปรากฏในฐานข้อมูลของเครดิตบูโรทั้งหมด 8 ปี