“พิชัย” อำลาตำแหน่งขุนคลัง หลังทำงาน 16 เดือน 3 วันขอบคุณข้าราชการ-หน่วยงานต่างๆ ฝากการบ้านทีมคลังใหม่ ปั้นรายได้เข้ารัฐ สานต่อนโยบายภาษีสหรัฐฯ

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายในงานร่วมแสดงความขอบคุณและอำลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า ช่วงเวลา 16 เดือน 3 วัน รวมถึงวันนี้ ที่มานั่งทํางานได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ นอกเหนือไปจากวงการภาคเอกชน ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการผลักดันโครงการต่างๆ ทั้งขั้นตอนและวิธีการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง

โดยกระทรวงการคลัง นอกจากการจัดเก็บภาษีแล้ว ควรทบทวนการถือครองทรัพย์สินและทรัพยากรของประเทศว่ามีสมบัติเก่าหรือที่ทิ้งไว้ในรูปแบบโครงสร้างพื้นฐานหรือไม่ และควรถือครองต่อไปเพียงใด ทรัพย์สินใดควรนำกลับมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่รัฐ เพื่อให้เกิดผลตอบแทนทางการคลังที่เหมาะสม  และยังฝากสานต่องานเรื่องภาษีสหรัฐฯ โดยหลังจากนี้ จะต้องมีคนมาสานต่อเพื่อให้ได้ความชัดเจนที่สุด ดังนั้นยังเชื่อมั่นต่อไปว่ากระทรวงการคลังจะยังคงเป็นหน่วยงานหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อทำให้เกิดความมั่นคง และต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคประชาชน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

ทั้งนี้ การทำงานในเรื่องภาษีสหรัฐฯ ตลอดช่วงที่ผ่านมา ได้รับการประสานความร่วมมือเป็นอย่างดีกับหน่วยงานต่าง ๆ จนนำมาซึ่งข้อตกลงที่หลายฝ่ายมองว่ามีความเหมาะสม แต่ไม่ว่าจะตกลงด้วยเงื่อนไขใด ตรงนี้ยังเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังมีสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ช่วยวิเคราะห์และออกแบบแนวทางการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบและช่วยกระจายรายได้ ขณะที่แนวทางที่จะทำให้การดำเนินนโยบายการเงินและการคลังไปในทิศทางเดียวกันและเดินได้สะดวก จึงเป็นที่มาในการหารือร่วมกันกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างใกล้ชิด ถึงแม้ผลกระทบที่เกิดขึ้นในระดับโลกยังไม่แน่ใจว่าจะรุนแรงแค่ไหน แต่ยืนยันว่าหน่วยงานในกระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมที่จะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนและป้องกันปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความมั่นคงและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด 

พร้อมทั้งขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมทำงานด้วยกัน ตลอดจนหน่วยงานหลายๆ แห่ง รวมทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังทั้ง 2 ท่านทั้งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล  ในผลักดันเรื่องต่างๆ ทั้งหมด ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles