นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ส.ส.พรรคประชาชน (ปชน.) ตั้งข้อสังเกตว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่มีมาตรการตรวจสอบกระบวนการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับการเผา และไม่มีหลักเกณฑ์ห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่อาจเป็นสาเหตุของปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยรัฐบาลห่วงใยและตระหนักถึงผลกระทบของปัญหาฝุ่น PM 2.5 นายกรัฐมนตรี (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) ได้สั่งการให้หน่วยงานทุกภาคส่วนดำเนินการแก้ปัญหา PM 2.5 อย่างเร่งด่วน โดยขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างผลักดัน พ.ร.บ. อากาศสะอาด โดยกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ทั้งระบบ ในระหว่างนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของฝุ่นข้ามพรมแดนเป็นการเร่งด่วน
สำหรับการกำหนดมาตรการห้ามนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ต้องพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน เนื่องจากข้าวโพดเป็นวัตถุดิบสำคัญของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ หากมีการห้ามนำเข้าโดยไม่มีมาตรการรองรับ อาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ค่าครองชีพของประชาชน และต้นทุนสินค้าส่งออก
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้เร่งหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เกษตรกร และภาคเอกชน และได้ข้อสรุปถึงมาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้แก่
-ผู้นำเข้าต้องขึ้นทะเบียน เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้
-ต้องแสดงเอกสารรับรองว่าข้าวโพดปลอดจากกระบวนการเผา พร้อมข้อมูลสำคัญ เช่น แหล่งเพาะปลูก ที่ตั้งแปลงปลูก ปริมาณการนำเข้า และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
หากไม่ปฏิบัติตาม จะถูกพักการขึ้นทะเบียน ทำให้ไม่สามารถนำเข้าได้
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอแนวทางนี้ต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ในเดือนเมษายน 2568 เพื่อให้พิจารณาบังคับใช้โดยเร็วโดยย้ำว่า รัฐบาลห่วงใยปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างมาก ถือเป็นวาระเร่งด่วนที่เราต้องรีบแก้ไข และรักษาสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งต้องคิดอย่างเป็นระบบและรอบคอบมากที่สุด โดยคำนึงถึงทุกภาคส่วน ตั้งแต่เกษตรกร ผู้ประกอบการ จนถึงประชาชนทั่วไป เพื่อให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด พร้อมยืนยันว่าจะติดตามและประเมินผลมาตรการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด