นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณี นัดหารือกับผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ภายในเดือนตุลาคมนี้ว่าต้องมาดูตารางงานกันก่อน ทั้งนี้สิ่งที่จะหารือกันคือเรื่องกรอบเงินเฟ้อ สำหรับปี 2568 โดยไม่มีความจำเป็นจะต้องอ้างอิงกับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ว่าจะต้องหารือก่อนหรือหลัง โดยขณะนี้เงินเฟ้อของไทยอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดไว้ และมีโอกาสที่จะต่ำกว่ากรอบล่าง หรือต่ำกว่า1% ดังนั้นต้องมาคุยกันว่าโอกาสที่จะเร่งเครื่องทางเศรษฐกิจ และธุรกิจให้มีมากขึ้น
นายพิชัย กล่าวอีกว่าภูมิภาคอาเซียนนั้นเป็นภูมิภาคที่กำลังเติมโตอยู่ โดยเพื่อนบ้านก็ตั้งกรอบเงินเฟ้อไว้สูงกว่าไทย 2-3% ต่อปี ส่วนสำหรับประเทศไทยก็อยากเห็นเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอีกหน่อย แต่ตัวเลขที่เหมาะสมคือเท่าไหร่ ก็ต้องหารือกับทาง ธปท. ก่อน
ส่วนการมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่อัดฉีดเม็ดเงินราว 1.4 แสนล้านบาทไปแล้ว ช่วยกระตุ้นเงินเฟ้อในปีะเทศหรือไม่นั้นว่าเงิน 1 แสนกว่าล้านบาทนั้น เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจไทยปัจจุบันแล้วเป็นเม็ดเงินเพียงนิดเดียว