นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) มีมติอนุมัติให้เปลี่ยนแนวเส้นทางอุโมงค์แยกเกษตร-ถนนงามวงศ์วาน-สะพานพงษ์เพชร มาเป็นทางด่วนเพื่อเชื่อมระบบโครงข่ายด้านตะวันออก ตะวันตก ของ กทม. โดยกำหนดค่าผ่านทางตลอดเส้นทางรวม 30 บาทว่า ไม่ทราบว่าเอาข้อมูลมาจากไหน เพราะจากที่ไปดูมติที่ประชุมก็ไม่มีการพูดถึงเรื่อง 30 บาท ฉะนั้น อาจเป็นความเข้าใจผิด หรือเข้าใจกันไปเองส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งในเดือนนี้
ส่วนนำเสนอข่าวว่าจะเก็บค่าทางด่วนบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 30 บาทนั้น นายพิพัฒน์ ยืนยันว่า ยังไม่มีอะไรเป็นข้อเท็จจริง โดยมติที่ประชุมไม่มีการพูดถึงการเก็บ 30 บาท แต่ที่สำคัญคือการให้ไปศึกษาความเป็นไปได้กับการใช้ทางลอดร่วม และผลการศึกษาคาดว่าจะใช้ระยะเวลา 2-3 ปีกว่าจะเสร็จสิ้น ซึ่งหากผลการศึกษาจะชี้ว่าเป็นความแออัด เราคงหาวิธีเลี่ยงไปในเส้นทางไหน แต่อย่างไรขอหารือกับทางกรรมการอีกครั้งหนึ่งก่อน
ด้านการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชี้แจงกรณีจะใช้อุโมงค์เกษตร และถนนงามวงศ์วานเป็นทางพิเศษว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ครบถ้วนจากข้อเท็จจริง โดยยังเป็นการศึกษาเบื้องต้น ซึ่งจะต้องศึกษาให้ครบถ้วนสมบูรณ์มากกว่านี้ อีกทั้งเป็นการอนุมัติในหลักการเบื้องต้นของ คจร. และที่สำคัญ ในช่วงอุโมงค์เกษตร-เรือนจำคลองเปรม ยังคงสามารถใช้ทางได้ฟรีไม่มีการเก็บค่าผ่านทาง ทั้งนี้ กทพ. จะชี้แจงรายละเอียดเรื่องนี้ให้สาธารณชนทราบโดยเร็วที่สุด
