นิตยสารฟอร์บส Forbes เปิดเผยรายงานการจัดอันดับ 50 ประเทศร่ำรวยที่สุดในโลกประจำปี 2025 หรือ 2025 Global Wealth Report จัดทำโดยธนาคารยูบีเอส หรือ Union Bank of Switzerland (UBS) การจัดอันดับดังกล่าวทำการประเมินจากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมของภาคครัวเรือน (Total Household Net Worth) ด้วยการอ้างอิงข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ธนาคารโลก และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา(OECD)
สำหรับประเทศไทย ได้รับการจัดในอันดับที่ 31 จากทั้งหมด 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีความมั่งคั่งรวม 1.58 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 51.3 ล้านล้านบาท เนื่องจากประเทศไทยมั่งคั่งด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม และธรรมชาติอันงดงาม เช่น ทุ่งนาสีเขียว มรดกโลกอย่างอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย แสงสีและความมีชีวิตชีวาของกรุงเทพมหานคร เสน่ห์ของวัดวาอารามอันเงียบสงบในเชียงใหม่ และชายฝั่งทะเลทางภาคใต้ที่งดงามอย่างภูเก็ตและเกาะสมุย ล้วนเป็นสินทรัพย์สำคัญที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกและสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศอย่างยั่งยืน
สำหรับ 10 อันดับแรกของประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปี 2025 มีดังนี้ อันดับ 1.สหรัฐอเมริกา สินทรัพย์รวม 163,117 พันล้านเหรียญ หรือประมาณ 5,289.8 ล้านล้านบาท อันดับ 2.จีน สินทรัพย์รวม 91,082 พันล้านเหรียญ หรือประมาณ 2,953.8 ล้านล้านบาท อันดับ 3.ญี่ปุ่น สินทรัพย์รวม 21,332 พันล้านเหรียญ หรือ 691.9 ล้านล้านบาท อันดับ 4.สหราชอาณาจักร สินทรัพย์รวม 18,056 พันล้านเหรียญ หรือ 585.6 ล้านล้านบาท อันดับ 5. เยอรมนี สินทรัพย์รวม 17,695 พันล้านเหรียญ หรือราว 573.9 ล้านล้านบาท
อันดับ 6.อินเดีย สินทรัพย์รวม 16,008 พันล้านเหรียญ หรือราว 519.1 ล้านล้านบาท อันดับ 7.ฝรั่งเศส สินทรัพย์รวม 15,508 พันล้านเหรียญ หรือราว 502.9 ล้านล้านบาท อันดับ 8.แคนาดา สินทรัพย์รวม 11,550 พันล้านเหรียญ หรือราว 374.6 ล้านล้านบาท อันดับ 9.เกาหลีใต้ สินทรัพย์รวม 11,041 พันล้านเหรียญ หรือราว 358.1 ล้านล้านบาท และอันดับ 10.อิตาลี สินทรัพย์รวม 10,600 พันล้านเหรียญ หรือราว 343.8 ล้านล้านบาท
สำหรับประเทศในกลุ่มอาเซียนตามการจัดอันดับในครั้งนี้ มีทั้งหมด 3 ประเทศ ดังนี้ อันดับ 1. อินโดนีเซีย(20) สินทรัพย์รวม 3,591 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 116.7 ล้านล้านบาท อันดับ 2.สิงคโปร์(25) สินทรัพย์รวม 2,125 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 69.1 ล้านล้านบาท และอันดับ 3.ไทย(31) 1,581 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 51.3 ล้านล้านบาท
สำหรับอันดับที่ 11-50 มีดังนี้ อันดับ 11 ออสเตรเลีย อันดับ 12 สเปน อันดับ 13 ไต้หวัน อันดับ 14 เนเธอร์แลนด์ อันดับ 15 สวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 16 บราซิล อันดับ 17 รัสเซีย อันดับ 18 ฮ่องกง อันดับ 19 เม็กซิโก อันดับ 20 อินโดนีเซีย
อันดับ 21 เบลเยียม อันดับ 22 สวีเดน อันดับ 23 เดนมาร์ก อันดับ 24 ซาอุดีอาระเบีย อันดับ 25 สิงคโปร์ อันดับ 26 ตุรกี อันดับ 27 โปแลนด์ อันดับ 28 ออสเตรีย อันดับ 29 อิสราเอล อันดับ 30 นอร์เวย์
อันดับ 31 ไทยแลนด์ อันดับ 32 นิวซีแลนด์ อันดับ 33 โปรตุเกส อันดับ 34 อาหรับ เอมิเรตส์ อันดับ 35 แอฟริกาใต้ อันดับ 36 ไอร์แลนด์ อันดับ 37 กรีซ อันดับ 38 ชิลี อันดับ 39 ฟินแลนด์
อันดับ 40 เช็กเกีย อันดับ 41 โรมาเนีย อันดับ 42 โคลัมเบีย อันดับ 43 คาซัคสถาน อันดับ 44 ฮังการี อันดับ 45 กาตาร์ อันดับ 46 ลักเซมเบิร์ก อันดับ 47 บัลแกเรีย อันดับ 48 สโลวาเกีย อันดับ 49 โครเอเชีย อันดับ 50 อุรุกวัย