ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา  มีมูลค่าการซื้อขายรวม 463,848 ล้านบาท ปรับตัวลดลง ต่างชาติยังเทขายรวมสุทธิกว่า 13,000 ล้านบาท 

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (16 – 20 มิถุนายน 2568) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 463,848 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 92,770 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 21% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 47% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 216,934 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 196,995 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 20,852 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42% และ 4% ของมูลค่าการซื้อขาย ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB456A (อายุ 20.0 ปี) LB353A (อายุ 9.7 ปี) และ LB29NA (อายุ 4.4 ปี)โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 34,497 ล้านบาท 23,105 ล้านบาท และ 20,310 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รุ่น CPALL263B (AA-)มูลค่าการซื้อขาย 1,014 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) รุ่น BGRIM286A (A-) มูลค่าการซื้อขาย 934 ล้านบาท

และหุ้นกู้ของบริษัท ปตท.สผ. ศูนย์บริหารเงิน จำกัด รุ่น PTTEPT274A (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 808 ล้านบาทอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลง 3-10 bps. ด้านปัจจัยต่างประเทศ ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 17-18 มิ.ย.

มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 4.25-4.50% ตามการคาดการณ์ของตลาด พร้อมปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2568มาอยู่ที่ 1.4% จากเดิมคาดการณ์ในเดือนมี.ค.ว่าจะมีการขยายตัว 1.7% และปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้สู่ระดับ 3.1% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.8% ขณะที่การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25%รวม 0.50% ในปีนี้ ด้านผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เมื่อวันที่ 16-17 มิ.ย. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ตามการคาดการณ์ของตลาด พร้อมประกาศจะชะลอความเร็วในการลดซื้อพันธบัตรรัฐบาลตั้งแต่เดือนเม.ย. 2569 สำหรับผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. มีมติด้วยคะแนนเสียง 6-3 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่า เศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนจะขยายตัวเพียง 0.8% ในปี 2568 จากความตึงเครียดด้านการค้าและอุปสงค์ที่ซบเซาลง

สัปดาห์ที่ผ่านมา (16 – 20 มิถุนายน 2568) กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 13,248 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิ ในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 125 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 1,485 ล้านบาท

และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 11,638 ล้านบาท

หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้

ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price Index) เปลี่ยนเป็น ดัชนีหุ้นกู้เอกชน(MTM Corp Bond Gross Price Index) ตั้งแต่ ม.ค. 2565

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles