นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด ชนะการประมูลข้าว 10 ปี ปริมาณ 15,000 ตัน แต่เพิ่งจดทะเบียนว่า ตนได้สั่งการให้ดูรายละเอียดแล้ว ซึ่งองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดประมูลข้าวเป็นการทั่วไป บริษัทดังกล่าวก็ดำเนินตามขั้นตอนคุณสมบัติและชนะไปในราคาสูงสุด แต่กระแสข่าวที่ออกมาตนไม่สบายใจ หากเป็นอย่างนั้นจริง ก็ต้องมีการพูดคุยหารือว่าบริษัทดังกล่าวมีเสถียรภาพที่จะดำเนินการได้จริงหรือไม่ เพราะในการประมูล ได้พิจารณาคุณสมบัติและราคาที่เสนอซื้อ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อรองราคา โดยราคาจะต้องไม่ต่ำกว่านี้ ส่วนจะมากขึ้นเท่าไหร่ อยู่ที่การต่อรอง
“ตนยอมให้ราคาต่ำกว่านี้ไม่ได้ หรืออย่างน้อยที่สุดต้องไม่ต่ำกว่าระดับสองและสาม ส่วนความสามารถของบริษัทในการรับมอบก็ต้องพิจารณาต่อไป”
อย่างไรก็ดี ในส่วนของคุณสมบัติของบริษัทที่ชนะประมูล และมีข้อสงสัยถึงทุนจดทะเบียน ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบไปแล้ว หากบริษัทนี้มีทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท และมีงบดุลในการใช้จ่ายประจำปี 1-2 ล้านบาท ตนก็ไม่มั่นใจว่าเขามีสิทธิที่จะทำให้โครงการนี้สำเร็จหรือไม่ จึงคิดว่าจะให้มีการทบทวนโดยคณะทำงาน
ดังนั้น ถ้าหากไม่มั่นใจก็ต้องให้คณะทำงานไปพูดคุยหารือ และก็ไปดูข้อกฎหมายว่าให้ดำเนินการจัดการอย่างไร ยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ไม่สบายใจ เพราะจากที่ฟังแล้ว ถ้าจริงตนก็ได้สั่งให้กรมพัฒนาธุรกิจตรวจสอบแล้ว และต้องให้คณะกรรมการเป็นผู้พิจารณา
อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบว่าบริษัทดังกล่าวผิดปกติจะดำเนินการอย่างไร กรณีแบบนี้จะมีบทลงโทษคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบริษัทที่ชนะประมูลดำเนินการตามเงื่อนไข ของการเข้าร่วมประมูลข้าว และดำเนินการตามขั้นตอน และได้เสนอราคาสูงสุด แต่คณะทำงานก็มีสิทธิพิจารณาว่าบริษัทดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการหรือไม่ ส่วนตนมีหน้าที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายน้อยที่สุด ได้ผลประโยชน์กับประเทศชาติมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ตนจะเรียกพิจารณาเรื่องนี้ หากผลออกมาเป็นอย่างไร ตนก็จะเสนอว่ายังไม่ประกาศว่าใครได้การประมูล
ส่วนข้อสงสัยว่ามีการฮั้วประมูลหรือไม่ ตนพร้อมจะตรวจสอบ ให้เกิดความชัดเจน และสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่าย แต่ทั้งนี้ เป้าหมายคือต้องการระบายข้าวและได้พิสูจน์แล้วว่า ข้าวที่นำออกมาระบายมีคุณภาพ
ขณะที่กรณีประชาชนยังมีความกังวลว่าการประมูลข้าวครั้งนี้อาจจะมีการนำข้าวมาปนกับข้าวปัจจุบัน คุณภาพข้าวที่นำออกประมูลนั้นได้พิสูจน์แล้วจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และเอกชน รวมถึงการที่มีคนมาประมูล และเมื่อประมูลแล้วผู้ประมูลยังต้องเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงคุณภาพข้าว ซึ่งต้องมีองค์การอาหารและยา (อย.) และอีกหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ และหากการส่งออกหรือนำออกมาขายก็ต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบ ดังนั้น อย่ากังวลเรื่องนี้เลย ซึ่งความกังวลนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ตนเคยบอกว่ามีความพยายามที่จะด้อยค่าราคาข้าว และทำให้การกระจายข้าวในครั้งนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดี ตนอยากให้เห็นแก่ประเทศชาติบ้าง