นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล ในช่วงก่อนที่จะมีการคิกออฟโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ตามที่ได้มีการหารือร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ว่ากระทรวงพาณิชย์ได้เริ่มดำเนินการช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการรายเล็กแล้ว โดยได้ทำการงดการจัดเก็บค่าใช้พื้นที่รายเดือนให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าในศูนย์อาหารสวัสดิการกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 43 ร้านค้า และงดเก็บค่าเช่าแผงตลาดนัดสวัสดิการกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 993 แผง และผู้ประกอบการร้านค้าในอาคารของสำนักงาน และลานชั้นสาม อีก 1,047 ร้านค้า เป็นเวลา 3 เดือน ส่วนตลาดที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงอื่น ๆ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตลาดในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่สำคัญ
สำหรับการจัดตลาดนัดพาณิชย์ทั่วประเทศ ขณะนี้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ได้เริ่มเตรียมความพร้อม โดยอยู่ระหว่างการกำหนดวัน เวลา ในการจัดตลาดนัดพาณิชย์ทุกเดือน อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ ระยะเวลา 3 เดือน โดยกำหนดสถานที่จัด เช่น ศาลากลางจังหวัด สถานที่ท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม ปั๊มน้ำมัน มหาวิทยาลัย ลานหน้าห้างค้าส่ง-ปลีก ลานหน้าห้างท้องถิ่น หมู่บ้านจัดสรร เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้า ได้มีสถานที่จำหน่ายสินค้า และช่วยให้ประชาชนได้จับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะเริ่มคิกออฟได้วันที่ 20 ส.ค.2567 นี้ โดยจะมีการนำสินค้าธงฟ้า เช่น ไข่ไก่ น้ำตาล น้ำมันพืช ข้าวสาร สินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าชุมชนราคาถูก อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ซอสปรุงรส น้ำยาซักผ้า ของใช้ประจำวัน เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องแต่งกาย ไปจำหน่าย เพื่อลดค่าครองชีพ
อีกทั้งอยู่ระหว่างการประสานงานกับกระทรวงกลาโหม นำรถทหารมาทำเป็นรถโมบาย นำสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพไปขายในฟื้นที่ห่างไกล เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงสินค้าราคาถูก รวมทั้งมีแผนที่จะร่วมมือกับผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของสภาหอการค้าแห่งประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงห้างค้าส่ง-ปลีก และห้างท้องถิ่น จัดมหกรรมลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ทั่วประเทศ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพด้วย