กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่ารายได้รวมธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ หรือโรงเรียนอินเตอร์ในไทยรวมกันอยู่ที่ 7,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% ขณะที่กำไรรวมของธุรกิจโรงเรียนอินเตอร์ในปี 2566 มีกว่า 1,600 ล้านบาท สะท้อนได้จากข้อมูลของบริษัทไนท์แฟรงค์ ซึ่งเป็นธุรกิจนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังระดับโลกได้เปิดเผยรายงานมีชื่อว่า รายงานความมั่งคั่งไนท์ แฟรงค์ หรือ Knight Frank’s the Wealth Report ปรากฏว่า ในช่วงช่วงปี 2016–2022 คนไทยที่มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth Individuals : HNWIs) เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% ต่อปี จึงกลุ่มที่มีพร้อมในการส่งบุตรหลานเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนนานาชาติ จึงการคาดการณ์ว่า ในปี 2026 คนไทยที่มีความมั่งคั่งสูงขยายตัวเป็นกว่า 160,000 คน
ปัจจัย หรือสาเหตุของกลุ่มผู้ปกครองที่มีรายได้สูง นักธุรกิจและเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศที่เข้ามาทำงานในไทยพร้อมครอบครัวมักมีความนิยมส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติในไทย เนื่องจากโรงเรียนนานาชาติในไทยมีการขยายหลักสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ปกครองที่ต้องการการศึกษาคุณภาพสูง และมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล
นอกจากนี้ โรงเรียนนานาชาติในไทยให้ความสำคัญต่ออัตราส่วนระหว่างครูผู้สอนกับจำนวนนักเรียน มีการสนับสนุนเชิงจิตวิทยาที่ส่งผลให้โรงเรียนนานาชาติได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ปกครองที่มีรายได้สูง โดยเฉพาะปัจจัยสำคัญ คือ สถานะทางสังคม หรือ Status แม้ว่าการเรียนในโรงเรียนนานาชาติจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าทางเลือกทั่วไป แต่ผู้ปกครองที่มีรายได้สูงก็เลือกที่จะลงทุนด้านการศึกษาให้แก่บุตรหลาน เกิดการยอมรับในสังคมและการมีส่วนร่วมในเครือข่ายสากลซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและความมั่งคั่งที่ผู้ปกครองชาวไทยและต่างชาติ
นอกจากนี้ ความชอบในสิ่งที่เฉพาะและพิเศษเจาะจง หรือ Exclusive เป็นอีกปัจจัยสำคัญไม่น้อยของกลุ่มผู้มีรายได้สูงมักมองหาประสบการณ์ หรือสิ่งที่ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป โรงเรียนนานาชาติมีหลักสูตรเฉพาะในการเข้าถึงเครือข่ายระดับโลก และสภาพแวดล้อมที่จะช่วยสร้างโอกาสการพัฒนาทักษะระดับสากล จึงสามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้ปกครองที่มีรายได้สูงเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ จากการจัดอันดับ 10 อันดับโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย ที่มีค่าเทอมสูงสุดนั้น พบว่าค่าเทอมอยู่ระหว่าง 1,109,400 – 905,300 บาท / ปี