นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีผลสำรวจความเห็นประชาชนของ “นิด้าโพล” ต่อกรณีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่าในประเด็นผลสำรวจ ที่ว่าประชาชนไม่โกรธเลย ถ้ารัฐบาลจะยกเลิกโครงการแจกเงินดังกล่าวนั้น โพลก็มีหลายอย่าง ต้องไปดูว่ามีการสำรวจทั่วถึงหรือไม่ มีการไปสำรวจคนที่ จ.หนองบัวลำภู จ.บึงกาฬ หรือไม่ เพราะฉะนั้นก็ต้องดูด้วย อีกทั้งจากการเดินทางลงพื้นที่ ก็ไม่มีใครบอกว่าไม่ต้องการเงินดิจิทัลวอลเล็ต
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตขณะนี้มีความเห็นที่แตกต่างหลากหลาย รัฐบาลยินดีที่จะรับฟัง และผลโพลก็เป็นอีกหนึ่งความคิดเห็น พร้อมย้ำว่า ต้องการให้ดูจากเจตนารมย์ของโครงการนี้ ซึ่งรัฐบาลได้นำเสนอไว้ขณะหาเสียงกับประชาชน ซึ่งจะเป็นวิธีการสำคัญที่รัฐบาลจะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี หน่วยงานราชการมีหน้าที่สนองต่อนโยบายของรัฐบาล และสิ่งที่สำคัญ ผู้นำของหน่วยงานมีหน้าที่ที่ต้องดำเนินการ หากไม่ดำเนินการ ก็ต้องกลับไปพิจารณาทบทวนนโยบายต่างๆ ว่าดำเนินการได้หรือไม่ อย่างไร ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเจตจำนงค์ของสภาฯ ที่ถือเป็นตัวแทนของประชาชน ส่วนแนวโน้มจะกลับมาเป็นการออก พ.ร.ก.กู้เงิน เนื่องจากใช้เหตุผลความจำเป็นเร่งด่วน และเศรษฐกิจเกิดวิกฤติหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า การรับฟังข้อมูลต่างๆ ก็ต้องนำข้อมูลจากทั้ง 2 ด้านมาพิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อหาวิธีการที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ยังได้ทวีตใน x ว่า “หากไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ เศรษฐกิจจะคล้ายกับปี 40” นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์กลุ่มหนึ่งมองว่า ดูชีพจรทางเศรษฐกิจและตัวเลขที่ผ่านมา อาการขณะนี้คล้ายกับวิกฤติปี 40 ขณะที่นักวิชาการบางคนก็มองว่าไม่วิกฤตเลย ซึ่งตนอยากบอกว่า เวลานี้สิ่งที่รัฐบาลทำ รัฐบาลพยายามคิดอะไรออกไปให้ไกลขึ้น โดยอิงข้อมูลทางวิชาการ และความคิดเห็นของประชาชน โดยยึดหลักว่า หากยังคิดอะไรแบบเดิม ชีวิตก็จะเป็นแบบเดิม
“ที่ผ่านมา ไม่ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย หรือส่วนที่เกี่ยวข้อง ก็คิดในแนวทางที่มีการวิพากษ์วิจารณ์มา ซึ่งก็มาถึงจุดนี้ที่ประเทศหยุดการเดินหน้ามากกว่า 10 ปี ทำให้เป็นชีวิตที่ต้องดิ้นรนตะเกียกตะกาย หากคิดแบบเดิม ก็จะได้แบบเดิม หากคิดแบบใหม่และพยายามทำให้รอบคอบก็จะได้อะไรใหม่ๆ” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรมย้ำว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแค่มาประชุมในวงแล้วจบ ส่วนจะต้องรอความเห็นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก่อนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเพียงข้อคิดเห็น แต่ไม่ใช่ข้อปฏิบัติ