นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถิติการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการ ส่งออก ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ปี 2567 มีมูลค่ารวม 3,565 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.96% หรือประมาณ 1.2 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิ์ 53.60% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของสินค้าที่ได้รับสิทธิ์
โดยประเทศที่ไทยใช้สิทธิ์ส่งออกไปมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ยังคงเป็นสหรัฐฯ มีมูลค่า 3,242.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.49% สัดส่วนการใช้สิทธิ์ 56.29% และมีสินค้าที่ใช้สิทธิ์ GSP มูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ หีบเดินทางขนาดใหญ่และกระเป๋าใส่เสื้อผ้า อาหารปรุงแต่ง ถุงมือยาง และกรดมะนาวหรือกรดซิทริก
ทั้งนี้ ปัจจุบันสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการต่ออายุโครงการ GSP ที่หมดอายุลงตั้งแต่สิ้นปี 2563 ทำให้ปัจจุบันเป็นการขอสงวนสิทธิ์ GSP เพื่อขอคืนภาษีที่ชำระไว้ หากโครงการได้รับการต่ออายุย้อนหลัง ส่งผลให้มูลค่าการใช้สิทธิ GSP ของสหรัฐฯ ในปี 2567 ไม่ได้ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น
ส่วนการใช้สิทธิ์ GSP ส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ มีมูลค่า 305.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอร์เวย์ มูลค่า 13.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) มูลค่า 3.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ์สูง อาทิ สายนาฬิกาทำด้วยโลหะสามัญ (สวิตเซอร์แลนด์) ข้าวโพดหวานปรุงแต่ง (นอร์เวย์) และสับปะรดกระป๋อง (CIS) เป็นต้น
นางอารดากล่าวว่า สินค้าที่มีการใช้สิทธิ์ GSP เพิ่มขึ้นในปี 2567 ในส่วนของสินค้าอุตสาหกรรม คือ พลาสติกปูพื้น มีมูลค่าใช้สิทธิ์ GSP สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2567 โดยทั้งปีมีมูลค่า 101.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 40.59% สัดส่วนการใช้สิทธิ์ 97.02% มะพร้าวปรุงแต่ง ใช้สิทธิ์ GSP ส่งออกเพิ่มขึ้นตั้งแต่ มิ.ย.2567 และทั้งปีมีมูลค่า 50.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.59% สัดส่วนการใช้สิทธิ์ 88.46% ถือเป็นสินค้าที่ไทยครองตลาดอันดับหนึ่งในสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ นำเข้ามะพร้าวปรุงแต่งจากทั่วโลก มูลค่า 106.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกมูลค่า 56.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วน 53.26% ตามด้วยฟิลิปปินส์ มูลค่า 15.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเวียดนาม มูลค่า 9.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ
“กรมขอเชิญชวนผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทยใช้สิทธิพิเศษ GSP เพื่อสร้างแต้มต่อทางการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการ GSP ของสหรัฐฯ ที่หากใช้สิทธิ์ GSP สินค้าจะได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าตลาดสหรัฐฯ ทำให้สินค้าไทยได้เปรียบในการแข่งขันด้านราคากับสินค้านำเข้าจากประเทศอื่น ๆ มากขึ้น โดยหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ผู้ประกอบการสามารถค้นหาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th หรือโทรสายด่วน 1385 รวมถึงไลน์แอปพลิเคชัน ชื่อบัญชี @gsp_helper”นางอารดากล่าว
ปัจจุบัน ไทยได้รับสิทธิ์ GSP จาก 4 ประเทศ/กลุ่มประเทศ โดยนอกจากสหรัฐฯ แล้ว ผู้ส่งออกไทยสามารถใช้สิทธิ์ GSP เพื่อส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) ซึ่งประกอบด้วย ยูเครน อาเซอร์ไบจาน ทาจิกิสถาน มอลโดวา อุซเบกิสถาน จอร์เจีย และเติร์กเมนิสถานได้อีกด้วย
