ม.หอการค้าฯ ประเมินภาษี 36% กระทบภาคอุตสาหกรรมการผลิต ปลดคนงานฉุดเศรษฐกิจไทยโตไม่ถึง 1% แนะเยียวยาผู้ประกอบการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มอีก

ม.หอการค้า ฯ ประเมินภาษี 36% กระทบภาคอุตสาหกรรมการผลิต ปลดคนงานฉุดเศรษฐกิจไทยโตไม่ถึง 1% แนะเยียวยาผู้ประกอบการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มอีก

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าการที่สินค้าส่งออกไทยถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% ผลที่เกิดขึ้นคือสินค้าไทยที่ถูกส่งไปสหรัฐฯ จะแพงขึ้นทันที ผลกระทบผู้ประกอบการไทยที่แน่นอนคือขายสินค้าได้น้อยลง หรือ หากต้องการแข่งขันได้ก็ต้องลดราคาสินค้า เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้นำเข้า ผลที่จะตามมาหลังจากนั้นคือการลดกำลังผลิต ลดการจ้างงานแรงงาน หรือ อาจปลดแรงงาน คนไทยอาจตกงานเพิ่ม

โดยประเมินเบื้องต้น หากไทยถูกคิดภาษีในอัตรา 25-36% ไทยจะสูญเสียรายได้จากการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยโตได้น้อยลงไปอีก 1% นั่นหมายความว่าจากเดิมที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ เคยประเมินไว้ว่าปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะโตได้ประมาณ 1.7% ก็อาจจะเหลือโตได้ต่ำกว่า 1% ทั้งนี้มองว่ารัฐบาลควรจะหาแนวทางแก้ไขเยียวยาไปพร้อมๆ กับการเจราสหรัฐฯ โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากเงิน 1.57 แสนล้านบาท และเร่งใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วก็จะช่วยให้กำลังซื้อในไตรมาส 3 เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว และหากในไตรมาส 4 งบประมาณปี 69 ออกมา และรัฐบาลให้เร่งจัดซื้อจัดจ้างเศรษฐกิจไทยก็จะถูกพยุง และหากหน่วยงานภาครัฐประชาสัมพันธ์ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีนกลับมาได้ รวมสูงกว่า 35 ล้านคน ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยโตได้ใกล้เคียง 1.5-2% ได้

ส่วนประเทศคู่ค้าสหรัฐฯอื่นๆ หากโดนเรียกเก็บภาษีในอัตรสูงก็จะเกิดปัญหาเช่นเดียวกับประเทศไทย คือ ส่งผลไปถึงการจ้างงานและรายได้ของคนในประเทศ สิ่งที่ตามมาคือ ประชาชนในประเทศนั้นๆต่างก็ต้องอยู่ในสภาวะรัดเข็มขัด อาจจะไม่มีเงินมาเที่ยวประเทศไทย ภาคท่องเที่ยวและบริการไทยก็มีรายได้น้อยลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้น การเรียกเก็บภาษี 36% ของสหรัฐจึงไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะผู้ส่งออกเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศไทยด้วย เรียกได้ว่าเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการ ซึ่งทีมไทยแลน์ต้องฟังเสียงจากผู้ประกอบการ และภาคเอกชน เนื่องจากจะทำให้เราสูญเสียรายได้ถาวรในทุกๆ ปี ปีละหลายแสนล้านบาท ซึ่งจะฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างน้อย 0.5-1% ต่อปี ต้องเจรจากับสหรัฐเพื่อให้ได้ประโยชน์ในระยะยาวให้มากที่สุด และการที่สหรัฐขยายเวลาให้ไทยนั้นเชื่อว่าสหรัฐต้องการเจรจากับไทย ซึ่งจะทำให้ไทยได้ประโยชน์ ส่วนการลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเหลือ 0% ในสินค้าหลายรายการ เชื่อว่าทีมไทยแลนด์พิจารณาดีแล้วว่าเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาวมากกว่าการที่ต้องถูกเรียกเก็บภาษีน้ำเข้าสหรัฐ 36% ดังกล่าว

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles