ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี (BEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 20% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายในจีนที่สูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งช่วยชดเชยยอดขายในยุโรปที่ลดลง 33% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2566
บริษัทวิจัยตลาด โร โมชัน (Rho Motion) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ BEV และรถยนต์ PHEV ทั่วโลกแตะ 1.47 ล้านคันในเดือนส.ค. นำโดยยอดขายในจีนที่เพิ่มขึ้น 42% ทำสถิติสูงสุดที่มากกว่าหนึ่งล้านคัน ขณะที่ยอดขายในสหรัฐฯ และแคนาดาเพิ่มขึ้น 8% แตะ 160,000 คัน ส่วนยอดขายตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันในยุโรปลดลง 4% โดยถูกกดดันจากยอดขายในเยอรมนีที่ร่วงลงถึง 23% หลังรัฐบาลตัดสินใจตัดเงินอุดหนุน
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ยอดขายในจีน ซึ่งเป็นตลาด EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะเพิ่มขึ้น 1 ใน 3 จากปีที่แล้วแตะ 10.5 ล้านคัน ขณะที่ยอดขายในยุโรปจะใกล้เคียงกับระดับของปีก่อนหน้าที่ 3.1 ล้านคัน
ขณะที่สถานการณ์ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปนั้น เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลเยอรมนีประกาศลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 40% สำหรับบริษัทที่จำหน่ายรถยนต์ EV หลังจากได้ยุติโครงการเงินอุดหนุนอย่างกะทันหันเมื่อปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ความต้องการ EV ชะลอตัวลง หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภครอซื้อรถรุ่นที่ราคาย่อมเยากว่า หรือหันไปเลือกใช้รถยนต์ไฮบริดแทน ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายต้องปรับลดแผนการผลิตรถอีวีลงด้วย