บริษัทวิจัยโร โมชัน (Rho Motion) เปิดเผยในวันนี้ (12 มี.ค.) ว่าจีนยังคงเป็นผู้นำด้านยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในเดือน ก.พ. แม้ยอดขายของบางแบรนด์ลดลงเนื่องจากสหภาพยุโรป (EU) เก็บภาษีนำเข้า EV ที่ผลิตในจีน ขณะที่ยอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยยอดขาย EV โดยรวมทั่วโลกทั้งแบบแบตเตอรี่ (BEV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เพิ่มขึ้น 49% แตะ 1.2 ล้านคันในเดือนก.พ.เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่โร โมชันระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกบิดเบือนโดยช่วงเทศกาลตรุษจีน และเมื่อเทียบกับเดือนม.ค.นั้น ยอดขายในเดือนก.พ.ลดลง 3%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า EU เริ่มเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตในจีนตั้งแต่ปลายเดือนต.ค. หลังจากเปิดการสอบสวนเรื่องการอุดหนุนของรัฐบาลจีน
ชาร์ลส์ เลสเตอร์ (Charles Lester) ผู้จัดการฝ่ายข้อมูลของโร โมชันกล่าวว่ายอดขายของเอ็มจี (MG) ซึ่งเป็นแบรนด์ที่อยู่ภายใต้กลุ่มเอสเอไอซี (SAIC) ของจีนนั้น ลดลงอย่างมาก และได้รับผลกระทบจากภาษีในระดับสูงสุด
เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ป (SAIC Motor Corp) เป็นบริษัทรถยนต์ที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ โดยยอดขายรถ EV ที่ผลิตในจีนของ SAIC ในตลาดยุโรปและเขตเศรษฐกิจยุโรป ลดลงเฉลี่ย 19% ในช่วงพ.ย. 2567 – ม.ค. 2568 เทียบกับช่วงม.ค. – ต.ค. 2567
ในแบรนด์อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีได้แก่ ฮอนด้า (Honda) ซึ่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นผ่านแบรนด์ตงเฟิง ฮอนด้า (Dongfeng Honda) ในจีน, เมอร์เซเดส (Mercedes), จี๋ลี่ (Geely), เทสลา (Tesla), ดาเซีย สปริง (Dacia Spring) ของเรโนลต์ (Renault) รวมถึงแบรนด์จีนขนาดเล็กอย่าง นีโอ (Nio) และเสี่ยวเผิง (Xpeng)
อย่างไรก็ตาม บีวายดี (BYD) กำลังขยายตลาดในยุโรปและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกได้ แม้ต้องเผชิญกับภาษีนำเข้า เนื่องจากผลกระทบของช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ ยอดขาย EV ในจีนเพิ่มขึ้น 76% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 35% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้
ส่วนยอดขาย EV ในยุโรปเพิ่มขึ้น 19% ในเดือนก.พ. เทียบกับปีก่อน และเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันที่ยอดขายเติบโตเป็นเลขสองหลัก นับตั้งแต่กฎเกณฑ์ด้านการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของ EU มีผลบังคับใช้ โดยเยอรมนีมียอดขายรถ EV เพิ่มขึ้น 40% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้
ขณะที่ยอดขาย EV ในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน แต่เลสเตอร์ระบุว่า นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่ไม่สนับสนุนการใช้พลังงานไฟฟ้า อาจส่งผลให้การคาดการณ์ยอดขาย EV ทั้งปีในสหรัฐฯ ลดลง ขณะเดียวกัน ตลาดรถ EV ของเม็กซิโกเติบโตมากกว่า 2 เท่า เนื่องจากเริ่มมีการนำเข้ารถ EV จากจีนในปริมาณมากตั้งแต่ปีที่แล้ว