ยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่ครึ่งปีแรก 68 ทะลุ 4.3 หมื่นราย ทุนแตะ 1.5 แสนล้าน ธุรกิจก่อสร้างอาคาร  ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  ธุรกิจร้านอาหารนำโด่ง 

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้วิเคราะห์สถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนมิถุนายน 2568 พบว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 7,023 ราย ลดลง 328 ราย (-4.46%) เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2567 (7,351 ราย) แต่เพิ่มขึ้น 5.34% เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2568 (6,667 ราย) ในขณะที่ทุนจดทะเบียนเดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ 18,113 ล้านบาท ลดลง 9,866 ล้านบาท (-35.26%) เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2567 (27,979 ล้านบาท) ด้านธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 580 ราย ทุนจดทะเบียน 1,083 ล้านบาท 2) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 387 ราย ทุนจดทะเบียน 1,332 ล้านบาท 3) ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 295 ราย ทุนจดทะเบียน 511 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 8.26%, 5.51% และ 4.20% ของจำนวนการจัดตั้งธุรกิจในเดือนมิถุนายน 2568 ตามลำดับ

ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายน 2568 มีธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนจัดตั้งเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 1 ราย คือ บริษัทราชดำริ ฮอลพิทอลลิตี้ แมเนจเมนท์ จำกัด ประกอบกิจการโรงแรม มูลค่าทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 2,600 ล้านบาท

ส่วนการจัดตั้งใหม่ในครึ่งปีแรกของปี 2568 (มกราคม-มิถุนายน 2568) มีจำนวน 43,838 ราย ลดลง 2,545 ราย (-5.49%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 (46,383 ราย) ในขณะที่ทุนจดทะเบียน 149,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,061 ล้านบาท (2.80%) 

ด้านธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 3,490 ราย 2) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2,870 ราย และ 3) ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 1,832 ราย คิดเป็นสัดส่วน 7.96%, 6.55% และ 4.18% จากจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในครึ่งปีแรกของปี 2568 ตามลำดับ

การจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเดือนมิถุนายน 2568 มีจำนวน 1,468 ราย เพิ่มขึ้น 52 ราย (3.67%) เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2567 (1,416 ราย) และมีทุนจดทะเบียนเลิก 10,403 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,499 ล้านบาท (112.16%)  เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2567 (4,904 ล้านบาท) ทั้งนี้ เดือนมิถุนายน 2568 มีบริษัทที่มีมูลค่าทุนจดทะเบียนสูงเลิกประกอบกิจการถึง 3 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 4,324 ล้านบาท ขณะที่ เดือนมิถุนายน 2567 ไม่มีธุรกิจที่จดทะเบียนทุนสูงมาจดเลิก โดยการจดทะเบียนเลิกครึ่งปีแรกของปี 2568 (มกราคม-มิถุนายน 2568) มีจำนวน 6,244 ราย เพิ่มขึ้น 205 ราย (3.39%)

ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรกของปี 2568 แม้ตัวเลขการจัดตั้งธุรกิจจะชะลอตัวบ้าง แต่เงินลงทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้น ในส่วนของการจดเลิกธุรกิจตัวเลขขยับขึ้นเล็กน้อยแต่ทุนเลิกลดลง ซึ่งถือว่าเป็นไปตามวัฎจักรของการจดทะเบียนธุรกิจ  โดยสัดส่วนการจัดตั้งธุรกิจต่อการจดทะเบียนเลิกมีสัดส่วนอยู่ที่ 7:1 กล่าวคือ จัดตั้ง 7 ราย เลิก 1ราย โดยสัดส่วนนี้เท่ากับค่าเฉลี่ยของครึ่งปีแรกในช่วง 5 ปีย้อนหลัง (2563-2567)

สำหรับธุรกิจที่เป็นแรงผลักดันให้การจดทะเบียนในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2567 มาจาก 5 ธุรกิจหลักๆ ได้แก่ 1) ขายส่งผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ เติบโตคิดเป็น 64.45% 2) โรงแรม รีสอร์ทและห้องชุด เติบโตคิดเป็น 48.93% 3) กิจกรรมทางกฎหมาย (สำนักงานหรือที่ปรึกษากฎหมาย) เติบโตคิดเป็น 46.79% 4) ขายส่งสินค้าทั่วไปโดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง เติบโตคิดเป็น 46.40%  และ 5) ขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร เติบโตคิดเป็น 21.05% ในทางกลับกันก็มีธุรกิจที่การเติบโตลดลง เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2567 ได้แก่ 1) ขายปลีกสินค้าอื่นๆ ในร้านค้าทั่วไป ลดลงคิดเป็น 31.50% 2) กิจกรรมของตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์โดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง ลดลงคิดเป็น 29.11% 3) ขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต ลดลงคิดเป็น 26.05% 4) อสังหาริมทรัพย์ ลดลงคิดเป็น 21.50% และ 5) ภัตตาคาร/ร้านอาหาร ลดลงคิดเป็น 12.97%

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568) มีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น 2,008,668 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 30.96 ล้านล้านบาท

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles