ล็อคฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอาวุธสงคราม และผู้ผลิตสินค้าอาวุธทางการทหารชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าเตรียมเปิดแผนผลิตขีปนาวุธต้นทุนต่ำด้วยราคาที่จับต้องได้ และมีราคาขายที่ทำให้นานาชาติ ซึ่งมีงบประมาณจำกัดสามารถเข้าถึงซื้อหาได้ สำหรับขีปนาวุธใหม่ดังกล่าวนี้จะมีราคาขายเพียง 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5.1 ล้านบาท ซึ่งถูกลงมากถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับขีปนาวุธระดับราคาสูงที่ขายในราคา 1,500,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 51 ล้านบาท ที่สำคัญ ขีปนาวุธใหม่นี้มีศักยภาพและพิสัยในการยิงเพื่อหวังผลทำลายเป้าหมายได้ไกลกว่า 500 ไมล์ขึ้นไปหรือเป็นระยะทางมากกว่า 800 กิโลเมตรขึ้นไป
ผู้บริหารของบริษัทล็อคฮีด มาร์ตินเปิดเผยว่าผลพวงของสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียซึ่งกินเวลามานานถึง 3 ปี ชี้ให้เห็นว่า ความต้องการในการใช้อาวุธสงครามขนาดหนัก รวมถึงประเภทขีปนาวุธเป็นจำนวนมาก เพื่อการใช้งานในทันทีกลายเป็นความต้องการของบรรดาประเทศที่มีความขัดแย้งกันสูง ท่ามกลางการจัดซื้อจัดหาอาวุธสงครามที่มีราคาถูก ส่งผลทำให้เกิดโอกาส และช่องว่างของตลาดอาวุธสงครามดังกล่าว นอกจากนี้ ในแง่ของเหตุผลทางการเมืองระหว่างประเทศนั้นก็เป็นการสร้างศักยภาพของอุตสาหกรรมผลิตอาวุธสงครามของสหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะยับยั้งหรือสร้างความท้าทายให้กับประเทศจีนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังให้กับรัสเซีย
นายสก็อต คัลลาเวย์ ผู้อำนวยการ สานงานอาวุธสงครามตลาดล่าง ขีปนาวุธและระบบฐานยิงขีปนาวุธ ล็อคฮีด มาร์ติน เปิดเผยว่าโครงการผลิตขีปนาวุธดังกล่าวมีชื่อว่า ซีเอ็มเอ็มที (CMMT) หรือ The Common Multi-Mission Truck เป็นสินค้าขีปนาวุธชุดใหม่ซึ่งอยู่ในกลุ่มของอาวุธสงครามต้นทุนต่ำ ซึ่งจะเป็นการผลิตร่วมกันระหว่างบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน และพันธมิตรทางซัพพลายเออร์ในอุตสาหกรรมอาวุธสงครามของสหรัฐอเมริกา สินค้าใหม่นี้จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาดของขีปนาวุธที่มีระดับราคาสูงและขีปนาวุธที่มีความต้องการในราคาที่ถูกลงมา แต่ยังมีสัญญาณภาพในการทำลายล้างค่อนข้างสูง
ซีเอ็มเอ็มที (CMMT) เป็น ขีปนาวุธใหม่ที่มีศักยภาพด้านความเร็วต่ำกว่าเสียงมีต้นทุนในการผลิตต่ำลง และมีพิสัยในการยิงและทำลายเป้าหมายในระยะไกล นอกจากนี้ยังถูกออกแบบมาให้มีการปรับแต่งหรือเปลี่ยนแปลงพิสัยและเป้าหมายในการทำลายล้างซึ่งขึ้นอยู่กับเป้าหมายและภารกิจที่แตกต่างกันออกไป
อย่างไรก็ตามระบบเครื่องยนต์ใบพัดที่ทำงานในขีปนาวุธชุดใหม่นี้ ไม่สามารถที่จะเทียบเคียงได้กับขีปนาวุธในชื่อรุ่นสแตนด์ออฟ เอจีเอ็ม-158 ที่ใช้ยิงจากอากาศสู่พื้นดินได้ เนื่องจากเป็นขีปนาวุธที่มีราคาแพงและคุณภาพสูง โดยมีราคาขายอยู่ที่ชุดละ 1,500,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 51 ล้านบาท
ทั้งนี้หากกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาพิจารณาและตัดสินใจในการสั่งซื้อขีปนาวุธในโครงการดังกล่าวแล้ว บริษัทล็อคฮีด มาร์ติน ตั้งเป้าที่จะผลิตได้มากถึงปีละ 2,500 ชุด