โคโนโคฟิลลิปส์ (ConocoPhillips) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตพลังงานและน้ำมันรายใหญ่อันดับที่ 2 ของประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันยี่ห้อเจ็ท (JET) ที่เคยเข้ามาทำธุรกิจปั้มน้ำมันในประเทศไทยเมื่อหลายทศวรรษผ่านมา ประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่มากระหว่าง 2,600 ถึง 3,250 คน หรือราว 20 ถึง 25% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดกว่า 13,000 ทั่วโลกในปัจจุบัน
นายไรอัน แลนซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ โคโนโคฟิลลิปส์ กล่าวว่า ได้ร่วมประชุมกับผู้บริหารระดับสูงและระดับกลางโดยระบบวิดีโอทางไกล เพื่อเปิดเผยรายละเอียดของการปรับลดจำนวนพนักงานครั้งใหญ่ นอกจากนี้ยอมรับว่า สาเหตุที่ต้องมีการปลดพนักงานเป็นจำนวนมากเป็นผลมาจากผลการดำเนินงานของบริษัทในธุรกิจพลังงานได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกตกต่ำต่อเนื่องในปี 2025 ต่อนอกจากนี้ยังได้ทบทวนและตัดลดงบประมาณในการลงทุนในธุรกิจพลังงาน ตัดงบประมาณในการสำรวจและขุดเจาะแหล่งน้ำมันดิบในสหรัฐ
ซีอีโอ โคโนโคฟิลลิปส์ กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นถึง 2 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้บริษัทมีความยากลำบากในการที่จะแข่งขันในธุรกิจดังกล่าว นอกจากนี้ ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่สามารถควบคุมได้ของบริษัทในปี 2024 เพิ่มสูงขึ้นถึง 13 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ต่อเนื่องจากในปี 2021 ที่มีต้นทุนอยู่ที่ 11 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ด้านผลประกอบการ พบว่าโคโนโคฟิลลิปส์มีรายได้สุทธิในไตรมาสที่ 2 ตกต่ำที่ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 64,000 ล้านบาท ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 4 ปี 5 เดือน หรือนับตั้งแต่มีนาคม 2021 เป็นต้นมา ท่านกลางราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ ร่วงลงถึงกว่า -11% จากต้นปีนี้จนถึงปิดตลาดในคืนที่ผ่านไป ในขณะที่ ราคาหุ้นของบริษัทดังกล่าวร่วงลงถึง 4.7% นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงเมื่อคืนผ่านไป
นับตั้งแต่ต้นปี 2025 ที่ผ่านมาบริษัทในธุรกิจพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศปลดพนักงานออกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตัดลดค่าใช้จ่าย เช่น เชฟร่อน ซึ่งเป็น 1 ในบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ ได้ประกาศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านไปว่าจะมีการปลดพนักงานครั้งใหญ่ออกมากถึง 20% ของพนักงานทั้งหมด เอสแอลบี และบีพี ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานในฝั่งทวีปยุโรปได้ประกาศผลพัฒนาการออกเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน
