ดาว (DOW) กลุ่มยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าเตรียมปลดพนักงานจำนวนมากถึง 1,500 คน โดยจะเน้นการปลดพนักงานของบริษัทดาวที่อยู่ในทวีปเอเชีย และยุโรปเป็นหลักสำคัญ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของนโยบายในการปรับโครงสร้างธุรกิจและองค์กร รวมถึงเป้าหมายในการประหยัดค่าใช้จ่ายให้ได้ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 34,000 ล้านบาท สาเหตุมาจากภาวะตลาดอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ซบเซาต่อเนื่อง รวมถึงแรงกดดันที่มีต่อความสามารถในการทำกำไรลดต่ำลงมาก
ผลพวงจากสภาวะตลาดเคมีภัณฑ์ที่ชะลอตัวและต้นทุนวัตถุดิบที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่องนำไปสู่การแข่งขันที่รุนแรงและหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้นโยบายด้านราคามีผลกระทบต่อกำไรลดต่ำลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่ประสบปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นในยุโรปและเอเชีย สำหรับตลาดในยุโรปนั้นบริษัทดาวต้องเผชิญกับการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบข้อบังคับใหม่ด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจัยนี้ส่งผลให้บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเคมีระดับโลกต้องทบทวนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในตลาดยุโรป
ในปี 2025 นี้ บริษัทดาวคาดการณ์ว่าจะเริ่มประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมระหว่าง 300-500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 10,200-17,000 ล้านบาทจากนโยบายควบคุมค่าใช้จ่ายเดิมที่กำหนดไว้ ในขณะที่บริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายในไตรมาสปัจจุบันจะอยู่ที่ 10,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 350,200 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเป็นตัวเลขคาดการณ์ยอดขายที่ต่ำกว่านักลงทุนและตลาดตั้งเป้าไว้ที่ 10,780 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 366,520 ล้านบาท
ในไตรมาสปัจจุบันจะพบว่า ยอดขายสุทธิในกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์และ เมล็ดพลาสติกประเภทพิเศษ ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจนี้เป็นแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทดาวนั้น ชะลอตัวเหลือเพียง 5,320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 180,880 ล้านบาท ลดลงถึง -5.82% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023
ทั้งนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์ของบริษัทดาว (Dow) ที่เปิดกิจการในประเทศไทย พบว่า ดาวเริ่มดําเนินธุรกิจในไทยตังแต่ปี พ.ศ. 2510 และได้ร่วมกับบริษัท เอสซีจี ก่อตังกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจี-ดาว ในปี พ.ศ. 2530 (ในปี 2565 เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้รีแบรนด์เป็นเอสซีจีซี) โดยในปัจจุบัน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ประกอบด้วยบริษัทซึ่ง Dow เป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว ได้แก่
1) บริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย จํากัด
2) บริษัท คาร์ไบด์ เคมิคอล (ประเทศไทย) จํากัด
3) บริษัท โรห์ม แอนด์ ฮาสส์ เคมิคอล (ประเทศไทย) จํากัด
กลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจีซี-ดาว ได้แก่
4) บริษัท สยามโพลีสไตรีน จํากัด
5) บริษัท สยาม โพลิเอททีลีน จํากัด 6) บริษัท สยามสไตรีนโมโนเมอร์ จํากัด
7) บริษัท สยามเลเทกซ์สังเคราะห์ จํากัด
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทร่วมทุนระหว่าง Dow และโซลเวย์ในประเทศไทย
ปัจจุบันกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ปัจจุบัน ดาวประกอบด้วย 13 โรงงาน ซึงเป็นฐานการผลิตทีใหญ่ที่สุดของดาวในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกโดยมี โรงงานตังอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย และนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก (มาบตาพุด) จังหวัดระยอง