จากรายงานของ Decoding Global Talent Report 2024 ได้สำรวจความคิดเห็นของคนที่อยากย้ายไปทำงานในเมืองอื่นๆ เผยแพร่ไว้เมื่อเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา
ข้อมูลจากธนาคารโลกระบุไว้ว่า ปัจจุบันมีแรงงานทั่วโลกราว 3.55 พันล้านคน นอกจากนี้ ยังมีรายงานเปรียบเทียบเมืองที่คนต่างชาติอยากย้ายเพื่อเข้าไปทำงานตั้งแต่ปี 2014, 2018, 2020, 2023 ไว้ดังนี้ ประเทศที่ครองแชมป์อันดับ 1 ประจำปี 2014 และ 2018 คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนปี 2020 ได้แก่ประเทศแคนาดา และปี 2023 คือ ประเทศออสเตรเลีย
ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา ลอนดอน ประเทศอังกฤษ จัดเป็นเมืองที่น่าดึงดูดให้ชาวต่างชาติอยากย้ายเข้ามา ประกอบด้วยหลายปัจจัย อาทิ ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ผู้คนที่มีพรสวรรค์จากหลายๆ ประเทศ ทำงานในลอนดอนอยู่แล้ว โอกาสทางเศรษฐกิจและการเงินมากมาย
จากเหตุผลในหลายประการทำให้ลอนดอนยังเป็นเมืองอันดับ 1 ที่ต่างชาติอยากย้ายเข้ามาทำงานในปี 2024 ซึ่งจัดอันดับไว้ดังนี้
อันดับ 1 ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
อันดับ 2 อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
อันดับ 3 ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
อันดับ 4 อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
อันดับ 5 นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
อันดับ 6 กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
อันดับ 7 สิงคโปร์
อันดับ 8 บาร์เซโลนา ประเทศสเปน
อันดับ 9 โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อันดับ 10 ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ขณะที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย อยู่อันดับที่ 17 จาก 30 อันดับที่ถูกจัดไว้
โดยประเทศในภูมิภาคเอเชียที่น่าสนใจก็คือ ปักกิ่ง ประเทศจีน (อันดับ 25) กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย (อันดับ 26) โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น (อันดับ 30)
อย่างไรก็ตาม จากรายงานสรุปไว้ว่า ความปลอดภัย ความมั่นคง และการรักษาความปลอดภัยที่ดีเป็นปัจจัยแรกๆ ที่ทำให้คนอยากย้ายเข้ามาทำงานในต่างประเทศ ซึ่งตามมาด้วยโอกาสของคุณภาพชีวิตและงาน โดยทั้งหมดที่กล่าวมานั้นอาจเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจว่าจะอยู่หรือลาออกด้วย