ยูนิตี้ ซอฟท์แวร์ อินคอร์ปอเรชั่น บริษัทผลิตโปรแกรมซอฟท์แวร์เกมออนไลน์ชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า เตรียมตัดลดค่าใช้จ่ายในปี 2024 ด้วยการปลดพนักงานครั้งใหญ่ และมากเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ตั้งบริษัทเป็นต้นมา ซึ่งจะมีพนักงานตกงานมากกว่า 1,800 คนทั่วโลก หรือ 25% ของพนักงานทั้งหมดที่มีเหลืออยู่จำนวนกว่า 6,735 คนทั่วโลก โดยการปลดพนักงานทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 มีนาคม 2024 หลังจากประกาศมาตราดังกล่าว ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทยูนิตี้ ซอฟท์แวร์ อินคอร์ปอเรชั่น เพิ่มสูงขึ้นทันทีถึง 5% จากราคาปิดในคืนผ่านมา
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2023 ผ่านมา ยูนิตี้ ซอฟท์แวร์ อินคอร์ปอเรชั่น ประกาศปลดพนักงานครั้งแรกจำนวน 265 ราย หรือคิดเป็น 3.8% ของพนักงานกว่า 7,000 คนทั้งหมดทั่วโลก รวมถึงปิดสำนักงานอย่างถาวรในพื้นที่ 14 แห่ง ที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ เช่น เยอรมนี สิงคโปร์ นอกจากนี้ ยังยุติความร่วมมือกับบริษัทผลิตภาพเอฟเฟ็กระบบดิจิตอล ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องลอร์ด ออฟ เดอะ ริง
นายจิม ไวท์เฮิร์ทส รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ กล่าวว่า บริษัทจะต้องตัดลดหลายสิ่งหลายอย่างที่ดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน เพื่อจะเน้นหัวใจหลักของธุรกิจ และผลักดันความสำเร็จในระยะยาวรวมถึงความสามารถในการทำกำไรในอนาคตด้วย การปลดพนักงานครั้งมากเป็นประวัติการณ์รอบนี้ ถือเป็นรอบที่ 4 นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2022 หรือในช่วง 1 ปี 6 เดือนผ่านมา
ผู้สร้างสรรค์เกมออนไลน์ทั่วโลกมากกว่า 1.1 ล้านคน ล้วนใช้โปรแกรมของบริษัทยูนิตี้ ซอฟท์แวร์ ในการออกแบบ สร้างสรรค์เกมออนไลน์ในแต่ละเดือน รวมถึงผู้ผลิตเกมออนไลน์ชื่อดัง เช่น โปเกม่อน โก บีท เซเบอร์ และฮาร์ทโทรน เป็นต้น
ทั้งนี้ ยูนิตี้ ซอฟท์แวร์ อินคอร์ปอเรชั่น บริษัทผลิตโปรแกรมซอฟท์แวร์เกมออนไลน์ชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี โดยมีนักวิศวะชาวเดนมากร์ก 3 คน ร่วมก่อตั้งขึ้น และได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะโปรแกรมสร้างเกมที่เรียกว่า เกม เอนจินส์ ที่สามารถสร้าง พัฒนา และเปิดตัวเกมอย่างง่ายครบทึกขั้นตอน หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเมื่อปี 2020 ผ่านมา ราคาหุ้นของยูนิตี้ ซอฟท์แวร์ อินคอร์ปอเรชั่น พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 ที่หุ้นละ 200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่าหุ้นละ 7,000 บาท แต่ในปีต่อมา ราคาหุ้นดังกล่าวดำดิ่งต่ำกว่าหุ้นละ 30 ดอลลาร์สหรัฐ หรือต่ำกว่าหุ้นละ 1,080 บาท