นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เน้นย้ำในการทำงานของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในมาตรการหลัก อาทิ บรรเทาภาระค่าครองชีพโดยเฉพาะค่าสาธารณูปโภค ดำเนินมาตรการแก้หนี้ให้ประชาชนทั้งระบบ ออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อผ่าน Easy e-Receipt และ มาตรการฟรี VISA สนับสนุนการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ยังมีเครื่องชี้ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ทำให้เห็นว่าประเทศไทยยังฟื้นตัวไม่เต็มศักยภาพ
นายชัย กล่าวว่า การดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจถือว่าจำเป็นอย่างมีนัยยะสำคัญ และนายกฯให้ความสำคัญว่าประเทศไทยต้องฟื้นตัวได้ในระดับเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศไทยจึงยังต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ป้องกันปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจปี 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 2/2567 จึงมีข้อสรุปว่าโครงการ Digital Wallet มีความจำเป็น ที่จะข่วยเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้กระจายตัวไปสู่ท้องถิ่น สร้างโมเมนตั้มให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มศักยภาพ
นอกจากนี้ ในที่ประชุมฯ ได้พิจารณาถึงรายละเอียดของโครงการฯ เพื่อให้สอดคล้องกับความเหมาะสม โดยได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ร่วมกันพิจารณาแหล่งงบประมาณทางเลือกเพิ่มเติม มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทร้านค้า และสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดส.) และ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) ร่วมกันดำเนินการศึกษารูปแบบของระบบ และแนวทางการพัฒนาระบบที่สามารถรองรับการดำเนินโครงการฯ และ มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งคณะอนุกรรมการด้านตรวจสอบการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ โดยให้ทุกส่วนนำมาเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพิจารณา เพื่อให้ได้ข้อสรุปในวันที่ 10 เม.ย.นี้