นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมัน ที่สถานีบริการเชื้อเพลิงคาลเท็กซ์ และสถานีบริการเชื้อเพลิง บางจาก บริเวณท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ในพื้นที่อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า ในช่วงใกล้วันหยุดวันจักรีและเทศกาลสงกรานต์ที่มีประชาชนออกเดินทางเป็นจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบความเที่ยงตรงของหัวจ่ายน้ำมัน ตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เน้นย้ำให้รักษาความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชน โดยในวันนี้ (29 มี.ค. 67) ได้มาสุ่มตรวจหัวจ่ายน้ำมัน ซึ่งได้มีการทดสอบความเที่ยงตรงของหัวจ่ายน้ำมัน และให้ประชาชน ผู้มาเติมน้ำมันได้ร่วมตรวจสอบด้วย พบว่าหัวจ่ายน้ำมันทั้ง 2 สถานีบริการฯ มีความเที่ยงตรง อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งกำหนดให้การตรวจสอบการให้คำรับรองหัวจ่ายน้ำมันและการต่ออายุคำรับรอง ไม่เกิน ±0.3% และในการตรวจสอบระหว่างการใช้งาน ไม่เกิน ±0.5%
อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวเพิ่มเติมว่าฝากถึงพี่น้องประชาชนเมื่อเวลาเติมน้ำมันขอให้ดูป้ายสัญลักษณ์วงกลมของสำนักงานกลางชั่งตวงวัดของกรมการค้าภายในที่ติดตรงตู้จ่ายน้ำมันตามสถานีบริการซึ่งสติกเกอร์รับรองของปี 2567 จะเป็นสีฟ้า หากมีสติ๊กเกอร์ดังกล่าวติดอยู่แสดงว่าได้มีการตรวจสอบแล้ว และให้สังเกตว่าราคาที่ขึ้นป้ายหน้าปั้มกับที่หัวจ่ายต้องตรงกัน ทั้งนี้กรมการค้าภายในได้จัดเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจ ลงตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันร่วมกับกระทรวงพลังงาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางในช่วงหยุดเทศกาลสงกรานต์นี้ หากประชาชนพบเห็นสถานีบริการน้ำมันไหนไม่เต็มลิตร แจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ กรมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป นอกจากนี้ ขอเน้นย้ำผู้ประกอบการว่าให้ปฏิบัติตามกฎหมายและไม่เอาเปรียบผู้ใช้บริการ กรณีพบการใช้หัวจ่ายน้ำมันที่ไม่มีคำรับรองหรือคำรับรองสิ้นอายุ และการจ่ายน้ำมันคลาดเคลื่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการดัดแปลงหัวจ่ายน้ำมันหรือเครื่องชั่งตวงวัดใดๆ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท
