รัฐบาลจีนตั้งเป้าเศรษฐกิจจีนปี 68 โต 5% ท่ามกลางสงครามการค้ากับสหรัฐเริ่มต้นขึ้น ตั้งงบขาดดุลพุ่งสูงในรอบกว่า 30 ปี ระดมกู้เงินเพิ่มจากปีที่แล้วรวมกันกว่าเกือบ 27 ล้านล้านบาท หวังฟื้นและกระตุ้นเศรษฐกิจจีน

รัฐบาล จีน ตั้งเป้า เศรษฐกิจ จีน ปี 68 โต 5% ท่ามกลางสงครามการค้ากับสหรัฐเริ่มต้นขึ้น ตั้งงบขาดดุลพุ่งสูงในรอบกว่า 30 ปี ระดมกู้เงินเพิ่มจากปีที่แล้วรวมกันกว่าเกือบ 27 ล้านล้านบาท หวังฟื้นและกระตุ้นเศรษฐกิจจีน

การประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ประเทศจีนประจำปี 2025 หรือเอ็นพีซี เริ่มต้นขึ้นวันนี้เป็นวันแรก โดยมีคณะผู้บริหารระดับรัฐบาลจีนรวมถึงนายกรัฐมนตรีจีนร่วมประชุม เปิดเผยว่ารัฐบาลจีนกำหนดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2025 อยู่ที่ระดับ 5% ส่งผลให้เป็นเป้าหมายในการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 5% เป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง ในปี 2024 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนมีอัตราการขยายตัวหรือตัวเลขจีดีพีเพิ่ม 5% ส่งผลให้มูลค่าขนาดเศรษฐกิจประเทศจีนอยู่ที่ 134.9 ล้านล้านหยวน หรือ 18.77 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 638 ล้านล้านบาท

ในขณะเดียวกันรัฐบาลจีนได้จัดตั้งงบประมาณในลักษณะขาดดุลของปีงบประมาณ 2025 โดยตั้งมูลค่าขาดดุลงบประมาณสูงถึง 5.66 ล้านล้านหยวน หรือกว่า 26.5 ล้านล้านบาท หรือเป็นสัดส่วนการขาดดุลไว้ที่ 4% ของจีดีพีประเทศจีน ซึ่งเพิ่มขึ้นอีก 1% จากปีงบประมาณ 2024 ผ่านไป ส่งผลให้การตั้งงบประมาณขาดดุลที่ 4% ต่อจีดีพีนั้นทำสถิติการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสูงสุดในรอบกว่า 30 ปีหรือนับแต่ปี 1994 เป็นต้นมา

เนื่องจากรัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายในการระดมทุน หรือกู้เงินเพื่อนำมาฟื้นและกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน สำหรับรัฐบาลกลางตั้งเป้าการออกพันธบัตรรัฐบาลจีนระยะยาวรวมมีมูลค่าสูงสุดถึง 1.3 ล้านล้านหยวน หรือ 179,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6.08 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในปี 2024 ที่ระดมเงินกู้ผ่านพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าวที่ 1 ล้านล้านหยวน หรือกว่า 4.7 ล้านล้านบาท สอดรับกับรัฐบาลท้องถิ่นหรือในแต่ละมณฑลตั้งเป้าการออกพันธบัตรรัฐบาลจีนระยะยาวรวมมีมูลค่าสูงสุดถึง 4.4 ล้านล้านหยวน หรือกว่า 20.6 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 3.9 ล้านล้านหยวนในปีผ่านไป

ด้านเป้าหมายเงินเฟ้อพบว่ารัฐบาลจีนได้ตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อในปี 2025 มาอยู่ที่ระดับ 2% ซึ่งลดลง 1% จากปี 2024 ที่เคยตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ที่ระดับ 3% สำหรับเป้าหมาย เงินเฟ้อที่ระดับ 2% ดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นเป้าหมายเงินเฟ้อที่ต่ำที่สุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีว่าภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงในช่วง 2023 ถึง 2024 สะท้อนจากภาวะเงินเฟ้อในประเทศจีนชะลอตัวลงจนกระทั่งเกิดภาวะเงินฝืดในบางช่วงที่ผ่านมา ในปี 2024 และ 2023 ตัวเลขเงินเฟ้อของประเทศจีนเพิ่มขึ้นเบาบางเพียง 0.2% ซึ่งสวนทางกับตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตในประเทศจีนลดลงต่อเนื่องในช่วงสองปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้การประชุมดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ 5 มีนาคมเรื่อยไปจนกระทั่งถึงวันที่ 11 มีนาคม 2025 ซึ่งในวันสุดท้ายจะเป็นการสรุปรวมนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและสังคมของประเทศจีน โดยจะมีประธานาธิบดีนายสี จิ้นผิงกล่าวสรุปในวันสุดท้ายของการประชุมประจำปีนี้

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles