เทมาเส็ก (Temasek) กองทุนความมั่งคั่งแห่งประเทศสิงค์โปร์ ซึ่งเป็นของ รัฐบาลสิงค์โปร์ เปิดเผยว่า เตรียมเงินลงทุนมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.1 ล้านล้านบาท เพื่อไปลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกาภายใน 5 ปีข้างหน้าโดยมีเป้าหมายกระจายการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนในอุตสาหกรรมประเภท เทคโนโลยีบริการการเงินและบริการดูแลสุขภาพ
นางเจน แอมเทอร์ตั้น หัวหน้าภูมิภาคอเมริกาเหนือ กองทุนเทมาเส็ก กล่าวว่า ตลาดทุนในสหรัฐอเมริกามีมิติทั้งมุมกว้างและมุมลึกที่น่าสนใจต่อการลงทุนอย่างมาก ประเทศสหรัฐอเมริกาในความเป็นจริงแล้วถือได้ว่า ได้ก้าวขึ้นไปสู่แถวหน้าของทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งได้เกิดขึ้นเป็นที่ชัดเจนต่อทั่วโลก โดยเฉพาะมุมมองในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ
ด้านสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาปรากฏว่าอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 2 ที่ระดับ 2.8% ออกมาดีเกินกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้อย่างมากส่งผลให้เป็นเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวโดดเด่นและล้ำหน้าในหมู่ประเทศขนาดใหญ่ด้วยกัน สอดคล้องกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ในตลาดหุ้นนิวยอร์กสหรัฐถึงแม้ว่าในบางช่วงบางคราว ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเต็มไปด้วยความผันผวนรุนแรงก็ตาม แต่ผลตอบแทนจากดัชนีหุ้นดังกล่าวพุ่งทะยานถึง 14.5% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้ ซึ่งปัจจัยบวกที่ผลักดันผลตอบแทนสูงเช่นนี้มาจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของสหรัฐอเมริกาที่เติบโตอย่างน่าทึ่งและมีความน่าเชื่อถือในระยะยาวจากบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ชั้นนำระดับโลก
สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนของกองทุนเทมาเส็กในต่างประเทศ พบว่า 22% ลงทุนในทวีปอเมริกาเหนือซึ่งมีสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก หรือคิดเป็นเงินลงทุน 63,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.33 ล้านล้านบาท และมี 19% ลงทุนในประเทศจีน ส่งผลให้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่สัดส่วนในการลงทุนของเทมาเส็กในสหรัฐอเมริกามีมากกว่าการลงทุนในประเทศจีน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณที่ผ่านมา
ขณะที่เศรษฐกิจประเทศจีนในไตรมาสที่ 2 ต้องเผชิญกับภาวะการขยายตัวที่ตกต่ำย่ำแย่มากกว่าที่คาดไว้ ท่ามกลางการตัดสินใจของธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและดอกเบี้ยกู้ยืมเงินประเภทอื่นๆลงเป็นจำนวนมาก และพร้อมๆกันในสัปดาห์ผ่านไป และนับเป็นเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 2 ปี เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวซบเซาอย่างต่อเนื่อง
เทมาเส็ก เปิดเผยว่า ผลกำไรมากมายที่ได้จากการลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกาและอินเดีย ได้กลายเป็นการสร้างสมดุลย์ความเสี่ยงจากการลงทุนในประเทศจีน ซึ่งให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ตกต่ำ ดังนั้นผลประกอบการสุทธิของการลงทุนในประเทศของไทยพบว่ามีผลการดำเนินงานที่ออกมาอย่างน่าประทับใจ
ทั้งนี้ มูลค่าพอร์ต หรือสัดส่วนตะกร้าในการลงทุนของเทมาเส็กที่มีอยู่มากกว่า 288,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 10.7 ล้านล้านบาท จะเน้นหนักในการลงทุนแบบระยะยาว ในแนวทางที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมประเภทความเป็นดิจิตอลและความยั่งยืน การประกาศเงินลงทุนมากกว่า 1.1 ล้านล้านบาทในสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ เทมาเส็กจะให้ความสำคัญกับการลงทุนในหลากหลายธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ได้แก่ ธุรกิจศูนย์ข้อมูล หรือดาต้าเซ็นเตอร์ ธุรกิจผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และธุรกิจการกักเก็บแบตเตอรี่ไฟฟ้า