สำนักข่าวทาสส์ ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลรัสเซีย รายงานว่า สมาคมผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ และวิสาหกิจงานไม้แห่งประเทศรัสเซีย หรือ AFWER เปิดเผยว่า กรมศุลกากรแห่งนครวราดิวอสต๊อก ประเทศรัสเซีย ได้ทบทวนและปรับปรุงการจัดกลุ่มสินค้า และพิกัดอัตราภาษีนำเข้าใหม่กับกลุ่มสินค้าชิ้นส่วนหรืออะไหล่รางสไลด์ ที่นำเข้ามาใช้ในการผลิตและประกอบเฟอร์นิเจอร์จากประเทศจีนให้เข้ามาอยู่ในกลุ่มสินค้าชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่มีตลับลูกปืน ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มประเภทดังกล่าวจะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 55.65%
การประกาศทบทวนและพิจารณาอัตราภาษีนำเข้าสูงขึ้นในกลุ่มสินค้าประเภทดังกล่าวนั้นทำให้สมาคมผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ และวิสาหกิจงานไม้แห่งประเทศรัสเซีย แสดงความกังวลอย่างมากกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกิจการนำเข้าชิ้นส่วนหรืออะไหล่ผลิตเฟอร์นิเจอร์จะต้องปิดตัวลงและประกาศล้มละลายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ จะทำให้เฟอร์นิเจอร์ที่มีการใช้ชิ้นส่วนและอะไหล่นำเข้าจากประเทศจีนมาประกอบและขายในประเทศรัสเซียนั้น จะต้องมีราคาขายเพิ่มสูงขึ้นอย่างน้อยตั้งแต่ 15% ขึ้นไป
นายอเล็กซานเดอร์ ชีสตาคอฟ ประธานสมาคมผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ และวิสาหกิจงานไม้แห่งประเทศรัสเซีย กล่าวว่าปริมาณ การนำเข้าชิ้นส่วนอะไหล่และอุปกรณ์เพื่อประกอบเฟอร์นิเจอร์จากประเทศจีนในแต่ละปีจะ มีมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่าปีละ 44,200 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาไม่มีการเก็บภาษีนำเข้าเลยแม้แต่น้อยหรืออยู่ในอัตรา 0% ซึ่งเป็นการสนับสนุนในอุตสาหกรรมการผลิตเฟอร์นิเจอร์ในประเทศรัสเซียมาเป็นเวลานาน การประกาศทบทวนและขึ้นอัตราภาษีสูงถึงกว่า 55% ในครั้งนี้ ทำให้เกิดความแตกต่างกับการนำเข้าชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ใช้ผลิตเฟอร์นิเจอร์จากสหภาพยุโรปซึ่งยังคงมีอัตราการเก็บภาษีนำเข้าไม่เกิน 10%
นายวาดิม วิลดานอฟ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโบยาร์ด ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนและสินค้าเฟอร์นิเจอร์ประเภทตู้อาหารในประเทศรัสเซีย กล่าวว่า มาตรการขึ้นภาษีสูงถึงกว่า 55% ในครั้งนี้สร้างแรงกดดันให้กับบรรดาซัพพลายเออร์จีน ในเวลาเดียวกันก็สร้างผลกระทบเสียหายให้กับผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์รัสเซีย เนื่องจากในปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์ประเภทตู้อาหารล้วนประกอบจากชิ้นส่วนและอะไหล่ที่นำเข้าจากจีนซึ่งสนองตอบต่อความต้องการของตลาดภายในประเทศอย่างทั่วถึง
สำหรับมูลค่าการค้าขายระหว่างประเทศของทั้งจีนและรัสเซีย ได้ขยายตัวและเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 เป็นต้นมา หรือนับตั้งแต่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางการทหารเข้าบุกรุกประเทศยูเครนเป็นต้นมา ส่งผลให้การค้าขายของจีนที่มีต่อรัสเซียนั้นเป็นการช่วยเหลือและพยุงสภาวะเศรษฐกิจของรัสเซียที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่จากประเทศจำนวนมากในโลกตะวันตก
ทั้งนี้ มูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองประเทศนั้นเพิ่มสูงขึ้นโดยในปี 2023 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันอยู่ที่ 240,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8.16 ล้านล้านบาท ทำสถิติสูงสุดมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 50% ขอมูลค่าการค้าในช่วงก่อนปี 2022 สำหรับสินค้าที่ค้าขายส่งออกระหว่างกัน ได้แก่ ส่งออกน้ำมันดิบไปขายประเทศจีน ในขณะที่จีนส่งออกสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ และเครื่องจักรที่ใช้ในวงการอุตสาหกรรมมายังรัสเซีย