ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สวน มะลิ จังหวัดอุทัยธานีพบว่าเกษตรกรชาวสวนมะลิต่างดูแลต้นมะลิกันอย่างดี มีการกางมุ้งให้กับต้นมะพร้าวเพื่อป้องกันหนอนเจาะดอก เนื่องจากช่วงนี้ฝนตกชุกมักจะมีศัตรูพืช ทั้งหนอนและแมลงกัดดอกจนได้รับความเสียหาย อีกทั้งยังเป็นการบังคับให้ต้นมะลิออกดอกดกในช่วงนี้ ที่จะเข้าใกล้วันแม่ 12 สิงหาคม ราคาดอกมะลิถีบตัวสูงขึ้นทุกวันจากช่วงปกติราคาหน้าสวนจะขายได้กิโลกรัมละ 250 บาท แต่วันนี้ราคาขยับขึ้นมามาถึงกิโลกรัมละ 500 – 600 บาทแล้ว
ส่งผลให้ราคาที่ไปถึงร้านร้อยพวงมาลัย พุ่งแตะกิโลกรัมละ 1,000 บาทแล้วจากปกติไม่เกินกิโลกรัมละ 600 บาท และเชื่อว่าจะปรับสูงขึ้นอีกแน่นอน ส่งผลให้วันนี้แม่ค้าขายพวงมาลัยดอกไม้สด ต้องขอปรับขึ้นราคาขึ้นตาม อย่างพวงมาลัยคล้องข้อมือปกติขายพวงละ 10 บาท ขึ้นมาเป็น 15 บาท หรือพวงมาลัยคล้องคอขนาดเล็กจากพวงละ 20 บาท ต้องขอปรับขึ้นมาเป็น 25 บาท
เช่นเดียวกับที่จังหวัดพิษณุโลก แม่ค้าบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าวันนี้ราคาดอกมะลิปรับขึ้นจากวันนี้กิโลกรัมละ 600 – 700 บาทเป็นกิโลกรัมละ 900 บาทแล้วเนื่องจากช่วงนี้ความต้องการของตลาดมีมากกว่าดอกมะลิที่เกษตรกรเก็บออกมาขาย เนื่องจากฝนที่ตกชุกทำให้ดอกมะลิได้รับความเสียหาย บางส่วนเคยเก็บได้วันละ 5 กิโลกรัม แต่วันนี้เก็บขายได้เพียงไม่กี่ขีดเท่านั้น ส่งผลให้ต้องปรับราคาพวงมาลัยขึ้นตาม ที่จังหวัดพิษณุโลกราคาขึ้นแรงจากราคาเริ่มต้นพวงละ 20 บาท ขึ้นเป็นพวงละ 30 บาทซึ่งแพงกว่าช่วงปกติที่ขายพวงละ 10 บาทเท่านั้น บางร้านต้องหันไปใช้ดอกพุดแทนดอกมะลิซึ่งราคาถูกกว่า ตกกิโลกรัมละ 240 บาททำให้ยังคงขายพวงมาลัยได้ในราคาเดิม