ราคาทองคำโลกปิดลงกว่า 20 ดอลลาร์ ปิดเหลือกว่า 2,615 ดอลลาร์ รับเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่ง บอนด์ยีลด์ทะยานสูงใน 7 เดือน

ราคา ทองคำโลก ปิดลงกว่า 20 ดอลลาร์ ปิดเหลือกว่า 2,615 ดอลลาร์ รับเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่ง บอนด์ยีลด์ทะยานสูงใน 7 เดือน

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 27 ธันวาคม 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,615.99 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -19.33 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.7% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +24.12 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.0% สำหรับราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Spot ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2024 ที่ระดับ 2,790.15 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาส่งมอบทันที (Spot) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 7 ครั้งในเดือนตุลาคม

สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 2,633.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -20.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.8% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +25.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.0% ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำปิดลดลง -0.1% ในเดือนพฤศจิกายนผ่านไป ราคาทองคำร่วงกว่า -3% ทำสถิติราคาทองคำที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 1 ปี 2 เดือน หรือตั้งแต่กันยายนปี 2023 เป็นต้นมา

ตั้งแต่ต้นปีจนถึงคืนผ่านมา ราคาทองคำโลกทะยาน +28% ส่งผลให้ปี 2024 เป็นปีที่ดีที่สุดของทองคำโลกในรอบ 14 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา ในเดือนตุลาคมที่ผ่านไป ทำสถิติราคาทองคำล่วงหน้า (Future) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 6 ครั้ง โดยมีราคาล่วงหน้า (Future) สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,800.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2024

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ส่งผลเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐรายสัปดาห์ที่แข็งค่าขึ้นถึง 4 สัปดาห์ติดกัน สอดรับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ที่พุ่งสูงขึ้นในรอบ 7 เดือนครึ่ง หรือนับตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมผ่านมา

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมผ่านมา เฟดได้เปิดเผยการคาดการณ์แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นในปี 2025 จะมีจำนวนครั้งลดลงเหลือเพียง 2 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงอย่างน้อย 3 ครั้ง ที่สำคัญ จำนวนครั้งที่คาดว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง ทำให้เป็นไปได้สูงว่าเฟดจะไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้รวมกันลงถึง 1.00% จากเดิมที่เคยคาดการณ์เมื่อเดือนกันยายนปีนี้ เนื่องจากมุมมองของกรรมการส่วนใหญ่ในคณะกรรมการนโยบายการเงินล้วนประเมินว่าเงินเฟ้อสหรัฐจะกลับมาเพิ่มขึ้นในปีหน้า หากเป็นตามที่ประเมินไว้จริง จะมีผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐต้องเพิ่มขึ้นและทรงตัวนานขึ้น ขณะที่เฟดประเมินว่สในปี 2025 อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะอยู่ที่ระดับ 3.75-4.00% และคาดว่าในปี 2026 จะอยู่ที่ระดับ 3.40% ด้วยการปรับลดลง 0.5% นอกจากนี้ มุมมองของแต่ละกรรมการของเฟด เปิดเผยว่า มี 10 จาก 19 รายที่ประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดจะอยู่ที่ระดับ 3.90% ในสิ้นปี 2025 โดยมีกรรมการ 4 ราย ประเมินว่าต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย และมี 5 รายคาดว่าต้องลดดอกเบี้ย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles