นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่าแนวโน้มราคาที่ดินในพื้นที่กรุงเทพฯในปี 2568 มีการปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 3-5% ถือเป็นการปรับตัวในทิศทางที่ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2567 ที่ปรับขึ้น 4-5% แต่ถ้าดูเฉพาะในพื้นที่ CBD ยังคงปรับตัวสูงขึ้นทุกปี เฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 5% ลดลงจากปี 2567 ที่ในพื้นที่ CBD ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8.93%
สาเหตุเนื่องมาจากภาพรวมเศรษฐกิจไม่ค่อยดีอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ผู้ประกอบการอสังหาฯ มีความระมัดระวังในการซื้อที่ดินใหม่และพัฒนาโครงการใหม่ จะซื้อเฉพาะแปลงที่มีศักยภาพจริงๆ เพราะยังไม่มีความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯในกรุงเทพฯ ชะลอตัวยังไม่รู้ว่าจะมีโอกาสกลับมาดีขึ้นได้ในตอนไหน ทำให้ผู้ประกอบการหันไปพัฒนาอสังหาฯ ในเมืองท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะภูเก็ต พัทยา เลยทำให้ที่ดินในกรุงเทพฯไม่มีแปลงไหนนิวไฮ และไม่มีแปลงไหนที่โดดเด่น
โดยมี 3 ทำเลที่มีราคาเสนอขายราคาสูงสุดในปี 2567 และน่าจะยังคงสูงต่อเนื่องในปีนี้ ได้แก่ 1. เพลินจิต-ถนนวิทยุ ราคา 3-3.75 ล้านบาทต่อตารางวา 2. สุขุมวิทช่วงต้น ราคา 2.5-2.9 ล้านบาทต่อตารางวา แต่เมื่อปลายปีที่แล้วมีการซื้อขายโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท มูลค่า 5,055.55 ล้านบาท จึงทำให้ราคาที่ดินก้าวกระโดดขึ้นมาอยู่ที่ 3.88 ล้านบาท แต่เป็นการขายโรงแรมพร้อมที่ดิน และ 3. สีลม ราคา 2-2.5 ล้านบาทต่อตารางวา ขณะที่มีบางแปลงถูกซื้อขายอาจเกินราคา 2.5 ล้านบาทต่อตารางวา แต่เป็นที่ดินขายพร้อมทรัพย์สิน
ขณะนี้ยังไม่มีการปิดดีลซื้อขายที่ดินที่มีราคานิวไฮเท่ากับของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ซื้อที่ดินย่านสารสินในราคา 3.9 ล้านบาทต่อตารางวาเมื่อหลายปีก่อน ทั้งนี้ปีที่ผ่านมามีที่ดินในย่านถนนวิทยุที่มีการเสนอขายมากกว่า 4 ล้านบาทต่อตารางวา โดยเป็นการขายที่ดินพร้อมทรัพย์สิน แต่ปิดดีลไม่จบเนื่องจากราคาค่อนข้างสูง