ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกหวนปิดขึ้นวันที่ 2 เหนือกว่า 87 ดอลลาร์ ปิดสูงสุดใน 2 เดือน

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 84.06 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.8 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.1% ส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +1.25 หรือ +1.4% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดสูงสุดในรอบ 2 เดือน หรือตั้งแต่ 26 เมษายนผ่านมา

ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 87.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.21 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.2% ส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +1.31 หรือ +1.6% ส่งผลทำสถิติราคาปิดสูงสุดในรอบ 2 เดือน หรือตั้งแต่ 30 เมษายนผ่านมา

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ปิดสวนทางกัน -0.2% และ +0.02% ตามลำดับ สิ้นสุดมิถุนายนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น +5.9% ส่งผลตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐ และเบร็นท์ อังกฤษ ปิดเพิ่มขึ้น +13.8% และ +12.1% ตามลำดับ

สาเหตุจากสำนักงานข้อมูลพลังงาน สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐตกต่ำมากถึง 12.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่จะลดลง 680,000 บาร์เรล นอกจากนี้ ความกังวลที่มีต่อพายุเฮอริเคนชื่อว่า แบร์เรียล ในอ่าวเม็กซิโก ยังคงส่งผลต่อโอกาสที่จะเกิดการสะดุดหยุดลงในการหยุดผลิตน้ำมันดิบชั่วคราวในอ่าวเม็กซิโก

อย่างไรก็ตาม เริ่มต้นฤดูร้อนในสหรัฐอเมริกาส่งผลให้คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3% ที่สำคัญ สัญญาซื้อขายราคาน้ำมันดีเซลและเบนซินล่วงหน้าพุ่งปิดสูงสุดในรอบ 10 และ 8 สัปดาห์ตามลำดับ กลุ่มโอเปกพลัส เปิดเผยว่า ความต้องการใช้น้ำมันดิบโลกยังไม่มีจุดสูงสุดในระยะกลางหรือระยะยาว พร้อมปรับคาดการณ์ว่า ปริมาณบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 116 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2045 และสำนักบริหารจัดการข้อมูลพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ อีไอเอ ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกปี 2024 เป็นวันละ 1.10 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่วันละ 900,000 บาร์เรล

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันครั้งสุดท้ายมีผลวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 โดยขึ้นราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ขึ้น 40 สตางค์/ลิตร นับเป็นการขึ้นราคาครั้งที่ 5 ในเกือบ 3 สัปดาห์ผ่านมา หรือตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2567 ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่สูงสุดในรอบเกือบ 8 สัปดาห์กว่า หรือตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคมผ่านมา