ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 68.93 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.5% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 73.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.4% ส่งผลเป็นราคาน้ำมันดิบปิดต่ำสุดในรอบ 2 เดือนกว่า หรือตั้งแต่วันที่ 10 และ 25 ธันวาคม 2024 ตามลำดับ
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดสำคัญปิด -0.5% และ -0.4% ตามลำดับ ส่งผลเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ปิดลดลงสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ในปี 2024 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดสุทธิลดลง 3% เมื่อเทียบกับปี 2023 ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ มีราคาปิดสุทธิเสมอตัวกับในปี 2023
สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในสัญญาณที่ไม่ดีมากขึ้น หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวอเมริกันดำดิ่งอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 3 ปีครึ่ง ส่งผลค่าดัชนีดังกล่าวทรุดต่ำสุดในรอบ 8 เดือนจากความกังวลในแนวโน้มเงินเฟ้อในอนาคต และนโยบายภาษีของรัฐบาลสหรัฐ เศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 1 ในยุโรป ปรากฏว่าชะลอตัวในไตรมาสที่ 4 ปีผ่านมา
ขณะที่แนวโน้มปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกจะมีมากขึ้น เนื่องจากทั่วโลกจับตาดูความคืบหน้าการเจรจายุติสงครามของรัสเซียและยูเครน รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบใหญ่อันดับ 3 ของโลก และอันดับ 2 ในกลุ่มโอเปกพลัส ด้านอิรัก ซึ่งผลิตน้ำมันดิบใหญ่อันดับ 2 ในกลุ่มโอเปก ลงนามกับบีพีในสัญญาการพัฒนาแหล่งน้ำดิบในเมืองเคอร์คุกของอิรัก
ทั้งนี้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 30 สตางค์/ลิตร นับ เป็นการปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไทยครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่งผลเป็นราคาขายปลีกสูงสุดใน 2 สัปดาห์เศษ หรือตั้งแต่ 5 กุมภาพันธ์ 2024