ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 76.91 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.9% ส่งผลหยุดราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -2.90 หรือ -3.74% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 79.94 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.6% ส่งผลหยุดราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -2.78 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.43%
สาเหตุจากวิกฤตการเมืองในประเทศลิเบียที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้รัฐบาลลิเบียประกาศห้ามส่งออกน้ำมันดิบในทุกท่าเรือของลิเบีย ในขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันดิบลดต่ำมากกว่าครึ่งหนึ่ง ปริมาณน้ำมันดิบหดหายถึง 700,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะหดหายมากถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ อิรักเตรียมลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบกว่าวันละ 500,000 บาร์เรล ในเดือนกันยายนนี้ เนื่องจากเป็นการชดเชยการผลิตที่เกินโควต้าของอิรักตามมติลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส โดยอิรักจะลดกำลังผลิตเหลือระหว่าง 3.85-3.90 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันที่ 4.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ความกังวลในสถานการณ์เศรษฐกิจของทั้งสหรัฐอเมริกา จีน เยอรมนี ที่มีแนวโน้มผันผวนในแง่ชะลอตัว อัตราการว่างงานสหรัฐแตะ 4.3% สูงสุดในรอบ 3 ปี กองทุนบริหารจัดการสินทรัพย์ยูบีเอส ปรับเพิ่มโอกาสเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาถดถอยจากเดิมมีโอกาส 20% ขึ้นเป็น 25% ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ลดเป้าคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ปีนี้ลง 5 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ระหว่าง 70-85 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และในปี 2025 ลดลงเหลือ 77 จาก 82 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวในปีนี้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจเยอรมนีชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 2 ปีนี้
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 23 สิงหาคม 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง -30 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาน้ำมันครั้งแรกใน 4 วันผ่านมา และเป็นการลดราคาครั้งที่ 8 ต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม หรือใน 1 เดือน 1 สัปดาห์กว่า รวมลดลงสะสม -2.80 บาท/ลิตร ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่ถูกที่สุดในรอบ 7 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมผ่านมา