ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าได้ปรับลดราคาเป้าหมายเฉลี่ยน้ำมันดิบตลาดโลกในปี 2026 จากเดิมที่เคยคาดการณ์เฉลี่ยน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ที่ระดับ 73 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลงมาอยู่ที่ระดับ 56 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือลดลง 17 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือ -23.2% ท่ามกลางราคาในปัจจุบันเคลื่อนไหวที่ระดับ 63 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
สอดรับกับการลดราคาเป้าหมายเฉลี่ยน้ำมันดิบนิวยอร์ก หรือไนเม็กซ์ สหรัฐ ในปี 2026 ที่ระดับ 68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลงมาอยู่ที่ระดับ 52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือลดลง 16 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือ -23.5% ท่ามกลางราคาในปัจจุบันเคลื่อนไหวที่ระดับ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
สาเหตุจากในช่วงปี 2025-2026 กลุ่มโอเปคพลัสต้องการที่จะลดต้นทุนในการผลิตน้ำมันดิบของทั้งกลุ่ม นอกจากนี้ โครงการลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตน้ำมันดิบ ซึ่งได้รับการเลื่อนระยะเวลามาจากช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์โรคระบาด โควิด-19 ได้กลับมาอยู่ในรอบของการพิจารณาการลงทุนอีกครั้ง และนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2025 ที่ผ่านมากลุ่มโอเปคพลัสปรับขึ้นกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่อง รวมถึงสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบมากที่สุดในโลกและบราซิลได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบเช่นเดียวกัน
ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ต่อไปว่า ภาวะราคาน้ำมันดิบตกต่ำในช่วงระหว่างปี 2025 ถึง 2026 นี้จะฟื้นตัวขึ้น จากในปี 2027 โดยประเมินว่าราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ และนิวยอร์ก หรือไนเม็กซ์ สหรัฐ จะมีราคาสูงขึ้นมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 80 และ 76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในช่วงปลายปี 2028
อย่างไรก็ตามในช่วงระหว่างปี 2026 และ 2027 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ หากมีราคาดำดิ่งลงเหวลึกแตะที่ระดับ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ว่าเศรษฐกิจเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือ Recession แต่อาจพุ่งสูงขึ้นที่ระดับ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ว่าปริมาณน้ำมันดิบจากประเทศรัสเซียลดต่ำลงอย่างมาก จากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันดิบของประเทศในโลกตะวันตกที่อาจมีต่อเนื่อง
ในสัปดาห์ที่ผ่านไป สำนักงานพลังงานสากล หรือไออีเอ ได้เปิดเผยรายงานว่าตลาดน้ำมันดิบโลกในปี 2026 จะเกิดสภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดถึงวันละ 4,090,000 บาร์เบล
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่าได้ปรับลดราคาเป้าหมายเฉลี่ยน้ำมันดิบตลาดโลกในปี 2025 และปี 2026 ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ปี 2025 อยู่ที่ 74 และปี 2026 อยู่ที่ 68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สอดรับกับราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยเบรนท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปี 2025 อยู่ที่ 78 และปี 2026 อยู่ที่ 73 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ต่อไปว่าระดับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อังกฤษทะเลเหนือ จะมีราคาลดต่ำลงมาอยู่ในช่วงกว่า 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ภายในช่วงสิ้นปี 2026 ซึ่งจะมีสาเหตุมาจากกลุ่มโอเปคพลัสจะมีการกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบ จนกระทั่งส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มดังกล่าวขึ้นสูงสุดในรอบ 18 เดือน