ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 17 มีนาคม 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 67.58 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.40 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.6% ส่งผลปิดขึ้น 2 วันรวมกัน +1.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.6% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 71.07 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.49 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.7% ส่งผลปิดขึ้น 2 วันรวมกัน +1.19 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.7%
ในสัปดาห์ผ่านไป พบว่าราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ตลาดโลก ปิดที่ -3.9% และ -3.8% ตามลำดับ ส่งผลทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ดำดิ่งมากที่สุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ 21 มกราคม 2024 และดำดิ่งมากที่สุดในรอบ 4 เดือน หรือตั้งแต่ 11 พฤศจิกายน 2024
สาเหตุจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพื่อการบริโภคของรัฐบาลจีนที่ประกาศเมื่อวันอาทิตย์จะเป็นผลบวกต่อแนวโน้มการบริโภคน้ำมันของจีน ซึ่งเป้ยประเทศที่นำเข้าน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ สหรัฐเปิดการโจมตีกลุ่มฮูติติดอาวุธในประเทศเยเมนเมื่อวันอาทิตย์ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการโจมตีที่รุนแรงครั้งใหญ่ในตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐนายโดนัลด์ ทรัมป์ สาเหตุจากกลุ่มฮูติติดอาวุธกลับมายิงโจมตีเรือขนส่งสินค้าและน้ำมันดิบของอิสราเอล และสหรัฐ หลังสิ้นสุดระยะเวลาการหยุดยิงของอิสราเอลในฉนวนกาซา
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 11 มีนาคมนี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 30-40 สตางค์/ลิตร นับเป็นการปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกครั้งที่ 3 ต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 เป็นต้นมา ส่งผลเป็นราคาขายปลีกต่ำสุดใน 1 ปี 8 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2023