ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่าวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.08 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.11% ส่งผลราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -2.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.77% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 75.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.16 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.21% ส่งผลราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -1.98 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.57 %
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดสำคัญปิด -2% และ -3% ตามลำดับ ส่งผลเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ปิดลดลงสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ในปี 2024 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดสุทธิลดลง 3% เมื่อเทียบกับปี 2023 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ มีราคาปิดสุทธิเสมอตัวกับในปี 2023
สาเหตุจากประธานาธิบดีสหรัฐลงนามในคำสั่งบริหารใช้มาตรการอัตราภาษีเท่าเทียม แต่รอผลการศึกษาและสรุปการบังคับใช้เป็นทางการในวันที่ 1 เมษายนนี้ ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกมีราคาลดลงอย่างมากจากประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียพร้อมเปิดเจรจากับประธานาธิบดียูเครน เพื่อหาทางออกในการยุติสงครามที่กินเวลามายาวนานกว่า 3 ปี
ทั้งนี้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 40-50 สตางค์/ลิตร ไม่เพียงเป็นการลดราคาน้ำมันขายปลีกครั้งที่ 4 ของปี 2025 แต่ยังเป็นการลดราคาครั้งที่ 2 ต่อเนื่อง ส่งผลเป็นราคาขายปลีกต่ำสุดใน 3 เดือน หรือตั้งแต่ 5 พฤศจิกายน 2024
