ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 7 ตุลาคม 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 61.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.04 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.06% ส่งผลราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +1.25 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.09%
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 65.45 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.03% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +1.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.16%
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แหล่งสำคัญ ดำดิ่งมากถึง -7.4% และ -8.1% ตามลำดับ ทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ดำดิ่งมากที่สุดในรอบมากกว่า 3 เดือนผ่านมา
สาเหตุจากกลุ่มโอเปกพลัสโดยทั้ง 8 สมาชิกกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตกลุ่มโอเปกพลัสในเดือนพฤศจิกายนอีกวันละ 137,000 บาร์เรล ซึ่งเท่ากับในเดือนตุลาคม ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตมากระหว่างวันละ 274,000 – 411,000 บาร์เรล ซึ่งเป็นปริมาณที่เพิ่มขึ้น 2-3 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมผ่านไป หากเป็นจริงจะส่งผลเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 ต่อจากเดือนกันยายน และสิงหาคมที่เดือนละ 555,000 บาร์เรล และเดือนกรกฎาคม และมิถุนายนที่เดือนละ 411,000 บาร์เรล ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ และธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบของโอเปกพลัสจะขึ้นแตะวันละ 2.2 ล้านบาร์เรลภายในตุลาคมนี้
รัฐบาลสหรัฐเข้าสู่ภาวะชัดดาวน์เป็นวันที่ 7 ซึ่งเป็นความขัดแย้งทางการเมืองสหรัฐอเมริกาถึงขั้นต่างหากส่งผลให้ไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณใช้จ่ายของรัฐบาลทำให้เจ้าหน้าที่ข้าราชการต้องหยุดปฏิบัติงานและไม่ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 4 ตุลาคม เวลา 05.00 น. ราคากลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอลล์ -50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการปรับลดราคาน้ำมันครั้งแรกในรอบ 11 วันผ่านมา หรือนับตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน และมีราคาขายถูกสุดในรอบ 3 เดือนผ่านมา หรือนับตั้งแต่ 2 กรกฎาคม 2025